สติ๊กมาต้า - บาดแผลสติ๊กมาต้า (Stigmata)

สัญลักษณ์ของคริสต์ศาสนาที่คุ้นตาคนทั่วโลกดีคือ ภาพพระเยซูขณะถูกตรึงไม้กางเขน

การตรึงไม้กางเขนเป็นวิธีการประหารชีวิตของจักรวรรดิโรมัน ใช้สำหรับผู้ที่กระทำความผิดร้ายแรง โดยเพชฌฆาตจะใช้ตะปูตอกที่มือทั้ง 2 ข้างและเท้าทั้ง 2 ข้างของเหยื่อ จากนั้นก็นำไม้กางเขนขึ้นประจานผู้คนที่ผ่านไปมา ในที่สุดเหยื่อก็จะเสียชีวิตจากการเสียเลือด หัวใจวาย และการติดเชื้อต่างๆ หลังทนทรมานอยู่หลายชั่วโมง นับเป็นการประหารชีวิตที่โหดร้ายวิธีหนึ่ง


ในกรณีของพระเยซูนั้น ไบเบิ้ลระบุว่าทหารโรมันใช้ทวนแทงสีข้าง เพื่อให้มั่นใจว่าเสียชีวิตแล้วจริงๆ จึงมีบาดแผลที่สีข้างด้วย รวมเป็น 5 บาดแผล

มีข้อความเชื่อหนึ่งในศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกว่า ผู้ที่มีบุญหรือมีแรงศรัทธามากๆ จะมีบาดแผลทั้ง 5 ปรากฏตามร่างกาย โดยเชื่อว่าเป็นสัญญาณจากพระเจ้าให้ระลึกถึงการทรมานของพระเยซู หรือที่เรียกกันว่า บาดแผลสติ๊กมาต้า (Stigmata)

ตามความเชื่อนี้ บุคคลที่ได้รับบาดแผลสติ๊กมาต้าคนแรกคือ นักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซี ฤาษีชาวอิตาเลียนที่มีชีวิตอยู่เมื่อ 800 ปีที่แล้ว และเป็นนักบุญที่ คาร์ดินัลฆอร์เฮ เบร์กอกกลิโอ พระสันตะปาปาองค์ใหม่ รับเอาชื่อมาเป็นสมญานามของตน "โป๊ป ฟรานซิสที่ 1"


ในช่วง 800 ปีที่ผ่านมา มีผู้ที่อ้างว่าได้รับสติ๊กมาต้าหลายคน

อย่างไรก็ตาม การพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวไม่ได้เป็นเรื่องธรรมชาติใดๆ เลย หลายกรณีเป็นการกล่าวอ้างของผู้ที่มีเจตนาหลอกลวง บางคนเมื่อนำบาดแผลไปเอกซเรย์ ก็ปรากฏว่าเป็นเพียงบาดแผลตื้นๆ ขณะที่อีกหลายคนก็ประสบสภาวะอุปาทาน ด้วยการที่มีศรัทธาจนถึงระดับคลั่งไคล้ จนกลายเป็นทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัวเพื่อให้สอดคล้องกับหลักความเชื่อ

ส่วนกรณีของนักบุญฟรานซิสนั้น ตำนานเล่าว่าท่านป่วยด้วยไข้ป่าจนเสียชีวิต จึงมีการตั้งสมมติฐานไว้ว่า ไข้ป่านี้คือโรคมาลาเรีย และนักบุญฟรานซิสคงมีอาการจ้ำเลือดตามมือและเท้า อันเป็นอาการหนึ่งของโรคมาลาเรีย ซึ่งมักมีเลือดไหลจากบาดแผลด้วย

เมื่อนักบุญฟรานซิสเห็นอาการนี้ ประกอบกับการที่สมัย ก่อนยังไม่มีความรู้เรื่องการแพทย์ จึงเข้าใจว่าเป็นปาฏิหาริย์จากพระเจ้านั่นเอง