ข้อสรุปข้างต้นมาจากการสำรวจความคิดเห็นของคนกลุ่มวัยทำงานในอังกฤษจำนวน 1,000 คนที่มีอายุระหว่าง 35 - 54 ปี โดยผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมากกว่า 3 ใน 4 หรือร้อยละ 78 บอกว่า พวกเขาเป็นนักท่องเที่ยวแบบ “Flashpacker” หรือนักผจญภัยที่ปรารถนาการท่องเที่ยวแบบมีสไตล์และความสะดวกสบาย
เสียงส่วนใหญ่ของผู้ตอบแบบสำรวจที่จัดทำขึ้นโดยบริษัทท่องเที่ยว The Flash Pack รู้สึกว่าพวกเขาโตเกินกว่าจะเที่ยวแบบแบกเป้แล้ว พวกเขารู้สึกหนวกหูกับเสียงคุยดังๆ ของเพื่อนร่วมห้องในห้องพักหลายเตียงแบบโฮสเทล และรู้สึกทนไม่ได้กับอาหารราคาถูกและไม่อร่อย พวกเขาจึงหันไปเที่ยวแบบนอนโรงแรมบูติกที่ทันสมัย ชิมไวน์และลิ้มรสอาหารชั้นเลิศ
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากเจเนเรชั่นของคนรุ่นแบกเป้ที่เติบโตมาท่ามกลางการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ สนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นและการเดินทางอย่างแท้จริงไปสู่สภาวะของการปฏิวัติทางเทคโนโลยี
Flashpacker เป็นนักท่องเที่ยวที่มีสไตล์การท่องเที่ยวที่เป็นของตัวเอง เช่น พักห้องพักที่มีสไตล์สมัยใหม่ เน้นสะดวกสบาย กระเป๋าเดินทางที่ใช้เป็นกระเป๋าล้อลาก พกพาอุปกรณ์เทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็นแล็ปทอป สมาร์ทโฟนหรือไอเพด เป็นกลุ่มที่มีความยืดหยุ่นสูงในเรื่องการใช้จ่ายระหว่างการเดินทาง ขณะที่ Backpacker เป็นนักท่องเที่ยวที่ชอบการแบกเป้และหาที่พักพวกเกสต์เฮาส์โดยไม่ได้เน้นห้องพักที่หรูหราอย่างมีสไตล์
ราดฮา วียาส ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท The Flash Pack กล่าวว่า เราจะเห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้นที่เลือกเที่ยวอย่างมีสไตล์ ฉลาด และมีประสบการณ์
“แฟลชแพ็กกิ้งไม่ได้เป็นแค่เทรนด์การเดินทาง แต่เป็นไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวที่มีรูปแบบเดียวกับการแบกเป้เที่ยวในช่วงวัย 20 - 30 และเพิ่มความหรูหราให้มากขึ้น นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเที่ยวแบบแฟลชแพ็กกิ้งก็คือพวกแบ็กแพ็กในยุคสมัยใหม่ที่มีการจัดลำดับความสำคัญใหม่” เธอกล่าว
เธอบอกว่า สำหรับคนวัยทำงานที่เคยเที่ยวแบบแบ็กแพ็กตอนพวกเขาอายุ 20 - 30 มาตอนนี้พวกเขาอยากเที่ยวแบบผจญภัยเหมือนเดิม แต่ขอเพิ่มสไตล์และวัฒนธรรมเข้าไปด้วย
อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวกลุ่มวัยทำงานนี้ต้องเผชิญปัญหาด้านโลจิสติกส์ เช่น มีแนวโน้มที่จะหาเพื่อนร่วมทางไม่ได้ มีเวลาเที่ยวที่จำกัดเพราะลาหยุดประจำปีได้ไม่มาก ซึ่งทำให้การเที่ยวแบบได้ประสบการณ์อย่างไร้ขีดจำกัดเหมือนตอนยังวัยรุ่นทำได้ยากขึ้น