100 ประโยค สำนวนภาษาอังกฤษ
1. I have nothing to do all day. I’m bored to death. : ฉันไม่มีอะไรทำทั้งวันเลยฉันเบื่อมาก2. Son: Mom, I won the singing contest at school. : ลูกชาย: แม่ๆ ผมชนะการประกวดร้องเพลงที่โรงเรียน
Mom: You’ve got to be kidding. You sing terribly. : แม่: เธอต้องล้อเล่นแน่ๆเลยเธอร้องเพลงได้แย่มากนะ
4. It’s nine o’clock now. Let’s call it a day. : ตอนนี้ 3 ทุ่มแล้ว เลิกงานกลับบ้านกันเถอะ
5. Please stop singing. It’s getting on my nerves. : กรุณาหยุดร้องเพลงเถอะ มันรบกวนฉันมาก
6. You have a big fat belly because you are a couch potato. : คุณมีพุง (หน้าท้อง) ที่ใหญ่มากเพราะคุณมัวแต่ดูทีวี (บนโซฟา ไม่ทำอย่างอื่นเลย)
7. You read my mind. I was going to say that. : คุณรู้ใจฉันเลย (เหมือนอ่านใจฉันได้) ฉันกำลังจะพูดมันเลย
8. Whenever I feel blue, I like to watch comedy shows. : เมื่อไรก็ตามที่ฉันรู้สึกเศร้า ฉันชอบดูรายการตลก
9. My sister was involved in a small accident. It was just a fender-bender. : น้องสาวของฉันได้รับอุบัติเหตุเล็กน้อย แต่มันก็แค่เล็กๆน้อยๆ
10. Can you help my sister to get her foot in the door? : คุณช่วยน้องสาวฉันให้ผ่านขั้นแรกไปหน่อยนะ
11. Come on, let’s go. Don’t be a chicken. : เอาน่าไปกันเถอะ อย่าขี้ขลาดไปเลย (อย่าปอดแหกน่า)
12. Stop giving yourself a hard time. : หยุดสร้างความลำบากให้กับตัวเองเลย
13. Make up your mind, please. : กรุณาตัดสินใจด้วย
14. He didn’t pay for me, so we ended up going Dutch on the first date. : เขาไม่ได้เลี้ยงฉันนะ เราจึงลงท้ายด้วยการจ่ายคนละครึ่งในวันเดทครั้งแรก
15. I don’t think I can win, so I’ll throw in the towel. : ฉันไม่คิดว่าฉันจะชนะดังนั้นฉันจะยอมแพ้ (ยกธงขาวเลย)
16. I never get goose bumps when I see a horror movie. : ฉันไม่เคยขนลุก ตอนฉันดูหนังสยองขวัญเลย
17. Promise me that we will stay in touch. : สัญญากับฉันนะ ว่าพวกเราจะไม่ขาดการติดต่อกัน
18. He doesn’t have the guts to say “NO” to his wife. : เขาไม่มีความกล้าพอที่จะปฏิเสธภรรยาเขา
19. Rain or shine, we are going camping tomorrow. : ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น (ฝนจะตกหรือแดดจะออก) พวกเราจะไปตั้งแคมป์พรุ่งนี้
20. Finding a good job is easier said than done. : การหางานที่ดีนั้นพูดง่ายแต่ทำยาก
21. It’s about time you took responsibility. : ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องรับผิดชอบสักที (คือไม่เคยรับผิดชอบอะไรเลย)
22. Don’t jump to conclusions. Wait until you know everything. : อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ รอจนกระทั่งคุณรู้ทุกอย่างก่อน
23. Please keep an eye on my son while I go to the bathroom. : กรุณาจับตาดูลูกชายฉันให้หน่อย ในขณะที่ฉันไปเข้าห้องน้ำ
24. He broke up with me, just out of the blue! : จู่ๆ เขาก็บอกเลิกกับฉัน โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลย
25. Why don’t you ask your sister? She knows it inside out. : ทำไมคุณไม่ถามพี่สาวของคุณล่ะ หล่อนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมันเลย
26. Can you give me a hand putting away these toys? : คุณช่วยฉันเก็บของเล่นเหล่านี้หน่อยได้ไหม
27. I go on vacation with my family every now and then. : ฉันไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวของฉันเป็นครั้งเป็นคราว
28. This washing machine is out of order. : เครื่องซักผ้าอันนี้เสีย ใช้การไม่ได้
29. See you at 10 o’clock on the dot. : เจอกัน 10 โมงเป๊ะนะ
30. I hope he can do it. I’m keeping my fingers crossed. : ฉันหวังว่าเขาสามารถทำมันได้ ฉันภาวนาให้มีข่าวดี
31. Her singing ability is out of this world. : ความสามารถในการร้องเพลงของหล่อนยอดเยี่ยมมากๆ เหมือนไม่ได้มาจากโลกนี้เลย
32. I am afraid that I can’t help you. It’s way over my head. : ฉันเกรงว่าฉันไม่สามารถช่วยคุณได้ มันยากเกินกว่าที่ฉันจะทำได้จริงๆ
33. I have to deal with traffic every day. It was a total pain in the ass. : ฉันต้องจัดการกับปัญหารถติดทุกวัน มันเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกหงุดหงิดน่ารำคาญมากๆ
34. It’s not difficult at all, it’s really a piece of cake. : มันไม่ยากเลยนะ มันง่ายมากจริงๆ
35. You’re going to fall in love with me sooner or later. : คุณจะต้องตกหลุมรักฉันไม่ช้าก็เร็ว
36. I was just pulling your leg. : ฉันเพิ่งล้อคุณเล่นเฉยๆ นะ
37. If I put myself in your place, I would do the same thing. : ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันก็จะทำแบบนั้นเหมือนกัน
38. I’ve had nothing but a glass of milk all day. I’m so hungry that I could eat a horse right now. :
วันนี้ทั้งวันฉันไม่ได้กินอะไรเลย นอกจากนมแก้วหนึ่ง ตอนนี้ฉันหิวมากซะจนกินม้าได้ทั้งตัวเลย
39. Reading between the lines, I think he loves you. : ดูจากสิ่งที่เขาทำแล้ว ฉันพอจะเดาออกเขาชอบเธอนะ
40. Her face rings a bell. Have you known her? : หน้าหล่อนดูคุ้นๆนะ เธอรู้จักหล่อนไหม
41. I need to focus on my work, so stop bugging me. : ฉันต้องตั้งใจกับงานของฉัน ดังนั้นหยุดรบกวนฉันได้แล้ว (เลิกกวนตีนได้แล้ว อิอิ)
42. I don’t have any ideas now. I need to sleep on it. : ฉันยังคิดไม่ออกเลย ฉันขอใช้เวลานอนคิดก่อน
43. I don’t know what we will do after dinner. Let’s play it by ear. : ฉันยังไม่รู้เลยว่าเราจะทำอะไรต่อ หลังจากทานอาหารมือเย็น เดี๋ยวค่อยดูสถานการณ์อีกทีละกัน
44. I think Anna will be late again. Wow, Speak of the devil, here she comes. : ฉันคิดว่าแอนนาจะมาสายแน่ๆเลย อุต๊ะ! แอนนามาพอดีเลย ตายยากจริงๆ
45. We have 10 minutes before the movie, let’s grab a bite. : เรามีเวลา 10 นาทีก่อนภาพยนตร์เริ่ม ไปหาอะไรเร็วๆกินกันเถอะ
46. Take it easy. Everything will be alright. : ใจเย็นๆ (ทำตัวสบายๆ อย่าเครียด ) ทุกอย่างจะโอเคนะ
47. I don’t want to upset my mom so I will just go with the flow. : ฉันไม่อยากทำให้แม่ไม่พอใจ ดังนั้นฉันจะตามๆหล่อนไป
48. The system runs 24/7. : ระบบทำงานทุกวันตลอดเวลา (เนื่องจากหนึ่งวันมี 24 ชั่วโมงและหนึ่งอาทิตย์ก็มี 7 วัน )
49. I’m really feeling under the weather today. I have a terrible stomachache. : วันนี้ฉันไม่สบาย ฉันปวดท้องอย่างหนัก
50. Don’t sweat it, things will work out for you. : อย่ากังวลเลยทุกอย่างจะดีเอง
51. A: This is totally unacceptable. : อันนี้นี่รับไม่ได้อย่างรุนแรง
B: You can say that again. : ฉันเห็นด้วยกับคุณ (ไม่ได้แปลว่าให้คุณพูดอีกครั้งนะคะ)
52. I’m always broke around the end of the month. : ฉันมักจะเงินหมดช่วงปลายๆเดือนทุกที
53. You can’t be rude to someone on social media. That’s crossing the line. : คุณไม่ควรทำตัวหยาบคายกับใครในสื่อออนไลน์ มันเป็นการล้ำเส้น
54. I sort of know how to get to the airport. : ฉันค่อนข้างจะรู้ว่าไปสนามบินได้อย่างไรบ้าง
55.There’s one thing you haven’t taken into account. : มีอยู่สิ่งหนึ่งที่คุณไม่เคยไตร่ตรอง คำนึงถึงเลย
56. He said he did it by himself but I don’t buy it. : เขาพูดว่าเขาทำมันด้วยตัวของเขาเองแต่ฉันไม่เชื่อหรอก
57. I want to ride shotgun in his car. : ฉันต้องการที่จะนั่งข้างหน้า (ข้างๆคนขับ)ในรถของเขา
58. I missed 2 classes today, but who cares? : วันนี้ฉันไม่ได้เข้าเรียน 2 วิชา แต่ฉันไม่สนใจ
59. Come on, don’t be serious. It’s not a big deal. : เอาน่าอย่าเครียดไปเลย มันไม่ใช่เรื่องใหญ่
60. Oh you know Payton too! He is also my friend. Wow, It’s such a small world! : เธอรู้จักเพตันด้วยหรอ เขาเป็นเพื่อนของฉันเหมือนกัน ว้าว โลกกลมมากเลย
61. What’s going on here? : เกิดอะไรขึ้นที่นี่
62. You want to give me free tickets to the movie. Now you’re talking. : คุณให้ตั๋วคอนเสิร์ท อย่างนี้ค่อยน่าคุยกันหน่อย (พูดจาเข้าหู)
63. There is no way she will go with us, over my dead body. : ไม่มีทางที่หล่อนจะไปกับพวกเราได้ ข้ามศพฉันไปก่อนเถอะ (คือเกลียดหล่อนมาก)
64. When I was a kid I thought being a teacher was right up my alley. : ตอนฉันเป็นเด็ก ฉันคิดว่าการเป็นครูมันเหมาะกับฉัน
65. Good thinking to call and book the hotel rooms. :รอบคอบมากที่โทรไปและจองโรงแรมไว้ก่อน
66. Don’t worry about what they said. Nothing matters but what you are. :อย่ากังวลในสิ่งที่พวกเขาพูด ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสิ่งที่คุณเป็น
67. Come on, she’s not the only woman in the world. :เอาน่ะ หล่อนไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวในโลกนะ (ปลอบใจเพื่อนที่อกหัก)
68. Never mind what I said before, I don’t want to explain anymore. : อย่าสนใจสิ่งที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้เลย ฉันขี้เกียจอธิบายละ (ลืมๆไปเถอะ)
69. We will stay here one more night if you insist. : พวกเราจะค้างที่นี่อีกคืนก็ได้ถ้าคุณต้องการแบบนั้น
70. No need to thank me. It’s just nothing. : ไม่ต้องขอบคุณฉันก็ได้ แค่นี้เล็กน้อยมาก (ไม่เป็นไรเลย)
71. Fair enough, let’s share it for today. : ตกลง (ก็ยุติธรรมดี) งั้นเรามาแบ่งกันใช้ละกันสำหรับวันนี้
72. Stop being awfully quiet. “Has the cat got your tongue? : หยุดเงียบได้แล้ว ทำไมไม่ตอบล่ะ (เป็นใบ้หรือไง)
73. It was my pleasure to meet you. : ฉันรู้สึกยินดีมากๆที่ได้พบคุณ
74. I forgot about our anniversary. It totally slipped my mind. : ฉันลืมวันครอบรอบแต่งงานของเราไปเลย ลืมสนิทจริงๆ
75. I know you are so happy, it’s written all over your face. : ฉันรู้ว่าเธอมีความสุขมาก สีหน้าคุณบอกฉันหมดละ
76. Don’t be hesitate, go for it. : อย่าลังเลเลย เอาเลยสู้ๆ
77. Just give it to me straight, what happened last night? : บอกฉันมาตามตรง เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น
78. It’s a deal. I will get you a new phone if you pass the exam. : โอเค ตกลงฉันจะซื้อโทรศัพท์ให้คุณใหม่ถ้าคุณสอบผ่าน (ตกลงตามเงื่อนไข)
79. Promise me that we will keep in touch. Don’t be a stranger. : สัญญากับฉันนะว่าเราจะติดต่อกัน อย่าขาดการติดต่อนะ (อย่ากลายเป็นคนแปลกหน้ากันนะ)
80. We decided to go fifty-fifty on dinner. : พวกเราตัดสินใจที่จะจ่ายคนละครึ่งสำหรับอาหารเย็น
81. We are having a party tonight. Let’s get a life! : เราจะมีปาร์ตี้คืนนี้กัน มาสนุกกันเถอะ
82. You should be more careful. Don’t mess it up again. : คุณควรจะระวังมากกว่านี้หน่อยนะ อย่าทำให้เสียเรื่องอีกครั้ง (อย่าทำพลาด) ล่ะ “
83. I can’t thank you enough for what you have done for me. : ฉันขอบคุณมากๆสำหรับสิ่งที่คุณทำมาให้ฉัน
84. : I will get whatever you need, just name it. : ฉันจะให้ทุกอย่างที่คุณต้องการแค่บอกมา
85. No worries, I don’t need to use it anyway. : ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล ฉันไม่จำเป็นต้องใช้มัน
86. Why so blue? Don’t tell me that you fail the test again. : ทำไมเศร้าจัง อย่าบอกนะว่าคุณสอบตกอีกแล้ว
87. Can we have 10 minute break? Nature calls! : ขอพักเบรคสัก 10 นาทีนะ ฉันต้องการไปเข้าห้องน้ำ
88. How could you treat me so badly? Shame on you! : คุณทำเลวร้ายแบบนั้นกับฉันได้ไง ละอายแก่ใจบ้างสิ
89. Hang in there. I’m sure things will get better : สู้ๆ นะฉันมั่นใจว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้น
90. She is very lazy and good for nothing. : หล่อนขี้เกียจและไร้ประโยชน์มาก (ไม่ได้เรื่องเลย)
91. Take a hike, I am not interested in your services. : ไปให้พ้น ฉันไม่สนใจกับบริการของคุณ
92. Mom, don’t worry about my exam. It’s just a piece of cake. : แม่อย่ากังวลกับการสอบของฉันเลย มันง่ายมากๆ
93. See you in 10 minutes, I’m on my way. : อีก 10 นาทีเจอกัน ฉันอยู่ระหว่างทางละ (กำลังไปหา)
94.t’s a long story. We both decided to break up. : เรื่องมันยาวน่ะ (ยากที่จะอธิบาย) เราทั้งคู่ตัดสินใจที่จะเลิกกัน
95. Since when have you interested about my life? : ตั้งแต่เมื่อไรกัน ที่คุณเริ่มสนใจเกี่ยวกับชีวิตฉัน
96. Make sure you follow the instructions, got it? : กรุณาทำตามคำวิธีใช้ด้วย เข้าใจไหม (ไม่ได้แปลว่าได้รับรึเปล่า)
97. You think you will win the competition? You wish! : คุณคิดว่าคุณจะชนะการแข่งขันหรอ ฝันไปเถอะ (ไม่มีทางที่คุณจะชนะ)
98. I must impress him tonight. I am dressed to kill. : ฉันต้องทำให้เขาประทับใจคืนนี้ ฉันต้องแต่งตัวให้สวยที่สุด (สวยสัวหาร สวยสะพรึง)
99. He won’t let you drive after the accident. That figures. : เขาไม่ให้คุณขับรถหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุ ฉันก็ไม่แปลกใจเลยนะ
100. You heard about the gossip? Do tell. : คุณรู้เรื่องซุบซิบนินทาใช่ไหม บอกฉันมา