หลังจากนั้นมีการจัดแคมเปญนี้ติดต่อกันมาเรื่อยๆ ก็ทำให้บริษัทอื่นๆ ทำตามบ้าง จนในที่สุดวาเลนไทน์กลายเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น สมาคมช็อกโกแลตและโกโก้ของญี่ปุ่น จึงได้ทำการบัญญัติให้วันที่ 14 ก.พ. ของทุกปี เป็นวันแห่งช็อกโกแลต เพื่อให้บริษัทขายช็อกโกแลตต่างๆ โปรโมตและขายช็อกโกแลตได้ง่ายมากขึ้น และในที่สุดก็กลายเป็นธรรมเนียมว่าวาเลนไทน์เป็นวันที่ผู้หญิงจะให้ช็อกโกแลตกับผู้ชาย
ส่วนวัน White Day ที่กำหนดขึ้นหลังวาเลนไทน์หนึ่งเดือนนั้น ริเริ่มโดยร้านขายขนมชื่อ Ishimura Manmoridou ในเมืองฟุกุโอกะ เมื่อปี 1978 ก่อนจะมีการสานต่อด้วยการโปรโมตให้มีการให้ของขวัญที่เป็นสีขาว โดยในวันที่ 14 มีนาคม ผู้ชายจะมอบคุกกี้หรือลูกกวาด (Candy) ให้เป็นของขวัญแก่ผู้หญิงที่ให้ช็อกโกแลตแก่ตนในวันวาเลนไทน์ เพื่อเป็นการขอบคุณ (หรือตอบรัก) หรือเป็นการสารภาพรักแก่ผู้หญิงที่ตนชอบ และเพื่อไม่ให้น้อยหน้า สมาคมอุตสาหกรรมลูกกวาดแห่งประเทศญี่ปุ่นจึงได้บัญญัติให้วัน White Day เป็นวันแห่งลูกกวาดด้วย
รู้อย่างนี้แล้ว วาเลนไทน์จะให้อะไรกับใคร อย่างไรดี ...จะเลือกสไตล์ญี่ปุ่นหรือไทย ก็อย่าให้การตลาดมามีอิทธิพลเหนือความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อกัน