7 วิธีปลุกชีวิตจากหลับใหล ปลุกชีวิตให้มีพลัง

7 ways to wake up your life ที่ไม่ได้แปลว่า แค่การตื่นเช้า ตื่นเร็วอะไรนะคะ เขาเทียบกับการตื่นของชีวิตสำหรับคนที่จิตใจห่อเหี่ยวค่ะ ลองอ่านดูนะ

1.แรงบันดาลใจ
สรรหาแรงบันดาลใจให้ตัวเองเกิดความรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาให้ได้ ด้วยการศึกษาประวัติของบุคคล ที่ต่อสู้ชีวิตด้วยความยากลำบากกระทั่งรอดพ้นวิกฤติ มาได้สิ บางทีอาจทำให้รู้สึกดีขึ้นมาก็ได้ว่า ชีวิตของคุณไม่ได้เลวร้าย บัดซบไปกว่าคนอื่นเท่าไหร่ นักหรอก อย่ามัวแต่คิดมาก เพราะคิดไปก็เท่านั้น

2. นวด เยียวยาความกดดัน
ใช้การสัมผัสช่วยเยียวยาความกดดัน และความเครียดให้มลายหายไป จากผลวิจัยของศูนย์ศึกษาเรื่องการสัมผัส ในไมอามี บอกว่า การนวดหรือการกดจุด เนี่ยนะ มีส่วนช่วยคลายความเก็บกดที่มีอยู่ในตัวคุณได้ มากทีเดียว แต่เอ.. เขาแนะให้นวดเท่านั้นนะ ไม่ใช่ กระเถิบไปนาบต่อ นั่นอาจยิ่งเสียเงินเข้าไปใหญ่




3.ดูแลตัวเอง
ดูแลรักษาตัวเองให้แข็งแรง และดูดีไว้ก่อน อย่าปล่อยตัวเองกระเซอะกระเซิงหน่อยเลย

4. ใกล้ชิดญาติ
ใกล้ชิดกับญาติสนิทมิตรสหายเข้าไว้ เผื่อมีปัญหาอะไรจะได้หารือกัน (แต่ถ้าญาติบางคนทำให้ชีวิตเรายิ่งแย่ๆ ก็ควรห่างๆ นะคะ)

5. ติดตามข่าวสาร
ถ้าไม่มั่นใจว่าจะบริหารเงินในกระเป๋าให้ งอกเงยขึ้นได้อย่างไร พยายามติดตามข้อมูลจาก สื่อต่างๆ อย่ากะพริบตาก็แล้วกัน พอคุณทันโลก ทันยุค ทันสมัย เดี๋ยวก็ซึมข้อมูลเด็ดๆ ไปเองแหละ

6. ยอมรับว่า การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติ
ฉะนั้น ทุกชีวิตจึงวนเวียนอยู่กับช่วงเจริญเสมอตัว และตกต่ำ เหตุนี้อย่ากลุ้มใจจนเลยเถิด ถ้าวันนี้ยังไม่ใช่วันของเรา วันหน้าก็ยังมี…ทำใจให้ได้ก็สบายไป

7. รักชีวิตให้มากๆ
อย่าท้อถึงกับตัดช่องน้อยแต่พอตัวเลย เกิดมา กว่าจะโตก็ไม่ใช่ว่าง่ายๆ ไอ้ครั้นจะตายก็ไม่คิดหน้าคิดหลังเชียวรึ สู้หันไปคิดสร้างสรรค์ทำสิ่งใหม่ๆ ให้ตัวเองรุ่งเรืองแทนเถอะ.

การได้พักผ่อนสายตา อยู่กับธรรมชาติ ก็จะทำให้เราเหมือนได้ชาร์ตแบตให้กับร่างกายได้อีกทางนะคะ

ถามข้อมูลส่วนตัว ประโยคภาษาอังกฤษ

การถามข้อมูลส่วนตัวในบทความนี้ เป็นข้อมูลทั่วๆ ไปที่ไม่ได้เจาะลึกถึงขั้นน่าเกลียด ถือว่าเป็นเรื่องพื้นฐานค่ะ แต่บางคนก็อาจจะไม่ชอบให้ถามอายุ .. เรื่องนี้ก็เว้นไว้สักเรื่องเนอะ


ถามชื่อ

What is your name? (คุณชื่ออะไร)

Can you tell me your name please? (คุณชื่ออะไร)

ถามอายุ-วันเกิด

How old are you? (คุณอายุเท่าไร)

Can you tell me your age please? (คุณอายุเท่าไร)

What’s your birthday? (คุณเกิดวันที่เท่าไร)

ถามส่วนสูง-น้ำหนัก

How tall are you? (คุณสูงเท่าไร)

How much do you weigh? (คุณน้ำหนักเท่าไร)

What is your weight? (คุณน้ำหนักเท่าไร)

ถามที่อยู่

What is your address? (ที่อยู่ของคุณคือที่ไหน)

Where were you born? (คุณเกิดที่ไหน)

มาจากไหน-สัญชาติ-ศาสนา

Where are you from? (คุณมาจากที่ไหน / คุณมาจากประเทศอะไร)

What is your nationality? (คุณมีสัญชาติอะไร)

What is your religion? (คุณนับถือศาสนาอะไร)

ถามเรื่องการทำงาน

What do you do for a living? (คุณทำงานอะไร)

Where do you work? (คุณทำงานที่ไหน)

การเรียน

Where do you study? (คุณเรียนที่ไหน)

What faculty are you studying in? (คุณเรียนคณะอะไร)

เบอร์โทร

What is your telephone number? (เบอร์โทรศัพท์คุณหมายเลยอะไร)

What is your mobile phone number? (เบอร์โทรศัพท์มือถือของคุณหมายเลยอะไร)

เกี่ยวกับครอบครัว

How many people are there in your family? (ในครอบครัวคุณมีสมาชิกกี่คน)

How many children do you have? (คุณมีลูกกี่คน)

How many brothers and sisters do you have? (คุณมีพี่น้องกี่คน)

สถานะ

Are you married or single? (คุณแต่งงานแล้วหรือยังโสด)

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ในห้องน้ำ Bathroom

ลองยืนแปรงฟัน มองไปรอบๆ ห้องน้ำ-ห้องส้วม แล้วนึกคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ในห้องน้ำดูค่ะ ดูว่าตัวเองจะรู้คำศัพท์กี่ข้อ

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ในห้องน้ำ


ห้องน้ำ = Bathroom
ห้องส้วม = toilet (ทอยเลิท)

อ่างอาบน้ำ = bathtub
อ่างล้างมือ อ่างล้างหน้า = basin
อ่างล้างมือ อ่างล้างหน้า = sink
ก๊อกน้ำ = faucet
ก๊อกน้ำ = tap


ยาสีฟัน= toothpaste
แปรงสีฟัน= toothbrush
ที่วางแปรงสีฟัน = toothbrush holder

แชมพู-ยาสระผม= shampoo
ครีมอาบน้ำ = shower cream
ครีมอาบน้ำ แบบเจล = Shower gel
โฟมล้างหน้า = Foam

สบู่ = soap
จาน/ชั้นวางสบู่ = soap dish
สบู่เหลว = Liquid soap

เสื้อคลุมอาบน้ำ = bathrobe
ผ้าขนหนู ผ้าเช็ดตัว = towel
ผ้าเช็ดมือ = hand towel
ผ้าสำหรับเช็ดหน้า = Washcloth
พรมเช็ดเท้า ผ้าเช็ดเท้า = bath mat

โถปัสสาวะ = bidet
โถชักโครก = toilet bowl

กระดาษชำระ = toilet paper
ตู้เก็บของ = cabinet

เครื่องทำน้ำอุ่น = electric shower
เครื่องทำความร้อน = heater

ฝักบัวอาบน้ำ = shower
หมวกคลุมอาบน้ำ = shower cap
ม่านกั้นอ่างอาบน้ำ = shower curtain
ตู้อาบน้ำ= shower stall

แปรงถูหลัง = Back brush
ฟองน้ำถูตัว= sponge

แป้งฝุ่นโรยตัว= talcum powder
ที่โกนหนวด = razor
กระจก = mirror
ท่อระบายน้ำ = Drain

ทิศต่างๆ แม่น้ำ ทวีปและภูมิภาค คำศัพท์ภาษาอังกฤษ

ทิศทาง
ทิศเหนือ = north
ทิศใต้ = south
ทิศตะวันออก = east
ทิศตะวันตก = west


ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ = northeast
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ = southeast
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ = southwest
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ = northwest

ภาคกลาง = Central , Central Region
ภาคอีสาน = Isan
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ = The North East
ตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาคเนย์ = Southeastern

ทวีป และ ภูมิภาค
ยุโรป = Europe
เอเชีย = Asia
แอฟริกา = Africa

อเมริกาเหนือ = North America
อเมริกาใต้ = South America

แอนตาร์กติกา = Antarctica
ออสเตรเลีย / ออสตราเลเชีย / โอเชียเนีย = Australia / Australasia / Oceania

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Southeast Asia

ทวีป continent
ภูมิภาค region

ภูมิภาคอื่นของโลก
เทือกเขาหิมาลัย = the Himalayas
เทือกเขาแอลป์ = the Alps
เทือกเขาแอนดีส = the Andes
เทือกเขาร็อกกี = the Rocky Mountains (หรือ the Rockies)

ป่าอะเมซอน = the Amazon Rainforest
ทะเลทรายสะฮารา = the Sahara / the Sahara Desert
เขตอาร์กติก = the Arctic

เทือกเขา = mountain range

แม่น้ำ River

แม่น้ำ River
แม่น้ำไนล์ = the Nile
แม่น้ำอเมซอน = the Amazon
แม่น้ำคงคา = the Ganges
แม่น้ำเทมส์ = the Thames
แม่น้ำไรน์ = the Rhine
แม่น้ําดานูบ = the Danube
แม่น้ำวอลกา = the Volga
แม่น้ำแยงซี = the Yangtze
แม่น้ำมิสซิสซิปปี = the Mississippi

แม่น้ำโขง = Mekong River
ริมแม่น้ำ = Riverside
ฝั่งแม่น้ำ = River side

คำศัพท์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
แผนที่ = map
เข็มทิศ = compass
อ่านเข็มทิศ = to read a compass

สวน Garden คำศัพท์ภาษาอังกฤษ

อะไรอยู่ในสวนบ้าง?

watering can (วอเทอะริง แคน) = กระป๋องฝักบัว
fork (ฟอร์ค) = ง่าม, เหล็กง่าม, คราด
lawn mower (ลอน โมเวอะ) = เครื่องตัดหญ้า
spade (ซเพด) = เสียม




trowel (เทรา’เอิล) = พลั่วมือ
rake (เรค) = คราด ใช้ทำสวน
hoe (โฮ) = จอบ
hose (โฮส) = สายยาง
sprinkler (สพริงเคลอะ) = เครื่องฉีดน้ำ
ladder (แลด-เดอะ) = บันได
pram (พแร็ม) = รถเข็นเด็ก

leaf (ลีฟ) = ใบไม้
hedge (เฮดจฺ) = แนวพุ่มไม้
stick (ซทิค) = กิ่งไม้
tree (ทรี) = ต้นไม้ยืนต้น
bonfire (บอน-ไฟร) = กองไฟที่สุมกลางแจ้ง
smoke (ซโมค) = ควัน
brick (บริค) = อิฐ
flower (ฟเลา-เออะ) = ดอกไม้
path (พาธ) = ทางเดิน
grass (กราซ) = หญ้า
seed (ซีด) = เมล็ด
dustbin (ดัสบิน) = ถังทิ้งขยะ
shed (เฌ็ด) = เพิงเก็บของ, กระท่อม
greenhouse (กรีนเฮาซ) = เรือนกระจกสำหรับปลูกต้นไม้

caterpillar (แคท-เออะพิเลอะ) = หนอนผีเสื้อ
ladybird (เลดี่เบิรด) = เต่าทอง
pigeon (พีจ-อัน) = นกพิราบ
bee (บี) = ผึ้ง
beehive (บีไฮฟ) = รวงผึ้ง
wasp (วอซพ) = ตัวต่อ
worm (เวิม) = ไส้เดือน
snail (ซเนล) = หอยทาก
wheelbarrow (วีลแบโร) = รถล้อเดียวสำหรับขนดินและทราย

เทศกาลกินเจ ภาษาอังกฤษ ใช้ว่า Vegetarian Festival

เทศกาลกินเจ Vegetarian Festival พูดแบบนี้ก็ได้ค่ะ แม้จะไม่ถูกต้องนักแต่ก็มีคนเข้าใจ

เพราะ vegetarian n. คือมังสวิรัติ

แต่ถ้าอยากพูดอังกฤษได้ เราต้องรู้จักใช้คำง่ายๆ เหล่านี้ฝึกหัดไปได้ค่ะ


ความรู้สึกขัดแย้งกับการกินเจ และการไหว้เจ้า

การไหว้เจ้า คือการบูชาสิ่งของ ของกินต่างๆ เนื้อ เห็ด เป็ด ไก่ หัวหมู กันอย่างเต็มที่ แล้วมาลดละเลิกในการกินเจ

หากจะไม่กินเนื้อสัตว์ใหญ่ ก็ไม่กินเลยดีไหม ไม่อยากให้ทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายแบบนี้เลย

แต่ก็เอาน่ะ ความเชื่อ ความชอบของแต่ละคนต่างกัน ดังนั้น จะยอมรับในการเป็นตัวตนของทุกคนนะคะ

คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับ การเดินทางโดยเครื่องบิน

Traveling by plane

เที่ยวบินและเครื่องบินประเภทต่างๆ

airliner (noun - แอร์ไลเนอร์) เครื่องบินโดยสาร (large passenger aircraft)
jumbo jet (noun - จัมโบ เจท) เครื่องบินจัมโบ้

jetliner (noun - เจทไลเนอร์) เครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่
flight (noun - ไฟล์ทฺ) เที่ยวบิน


aviation (noun - เอวิเอ' เชิน) เกี่ยวกับการบิน
civil aviation (ซิวิล อิวิเอ' เชิน) การบินพลเรือน
commercial aviation (noun - คะเมอ'เชิล เอวิเอ' เชิน) สายการบินพานิช
commercial airline/aircraft (noun - คะเมอ'เชิล แอร์ไลน์/แอร์' คราฟทฺ) สายการบินพานิช
commercial flight (noun - คะเมอ'เชิล ไฟล์ทฺ) เที่ยวบินพานิช
cargo flight (noun - คาร์'โก ไฟล์ทฺ) เที่ยวบินบรรทุกสินค้า
cargo aircraft (noun - คาร์'โก แอร์' คราฟทฺ) เครื่องบินบรรทุกสินค้า
direct flight (noun - ไดเรคท์ ไฟล์ทฺ)) เที่ยวบินที่บินตรง

ผู้คนที่เกี่ยวข้อง


passenger (noun - แพส'เซนเจอะ) ผู้โดยสาร
ground crew/staff (noun - กราวด์ ครู/สแตฟฺ) - พนักงานสายการบินที่ทำงานภาคพื้นดิน
flight crew/aircrew (noun - ไฟล์ทฺ ครู/แอร์ครู) - พนักงานที่เกี่ยวของกับการ
cabin crew (noun - แคบ'บิน ครู - ลูกเรือ ก็คือ flight attendants นั้นเอง)
flight attendant (noun - ไฟล์ทฺ อะเทน'เดินท - พนักงานดูแลบนเครื่อง)
steward (noun - สทู'เอิด - พนักงานดูแลบนเครื่อง ผู้ชาย)
stewardess (noun - สทู'เออดิส - พนักงานดูแลบนเครื่อง ผู้หญิง)
pilot (noun - ไพเลิท) นักบิน
copilot (noun - โค ไพเลิท) นักบินร่วม, นักบินที่สอง, ผู้ช่วยนักบินหลัก
x-ray operator (noun - เอคซเร ออพ'พะเรเทอะ) พนักงานที่ทำหน้าที่เอกซฺเรย์กระเป๋า

คำศัพท์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง


in-flight (adj - อินไฟล์ทฺ) ในระหว่างบิน
cockpit (noun - คอค'พิท) ห้องคนขับเครื่องบิน
luggage compartment/bin/locker (noun - ลัก'กิจฺ คัมพาร์ท'เมินทฺ/บิน/ลอค'เคอะ) ช่องเก็บสัมภาระ
overhead compartment/bin/locker (noun - โอเฝอร์เฮด คัมพาร์ท'เมินทฺ/บิน/ลอค'เคอะ) ช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ

baggage/luggage (noun - แบก'เกจฺ/ลัก'กิจฺ) กระเป๋าเดินทาง
carry-on luggage (noun - แคร์รี อ่อน ลัก'กิจฺ) กระเป๋าที่เรานำขึ้นเครื่องไปด้วย
baggage/luggage claim แบก'เกจฺ/ลัก'กิจฺ เคลม จัดรับกระเป๋าสัมภาระ
terminal (noun - เทอ'มะเนิล) อาคารผู้โดยสาร
concourse (noun - คอน'คอร์ส) อาคารเทียบเครื่องบิน

gate (noun - เกท) ประตูทางออก
aisle seat (noun -ไอลฺ ซีท) ที่นั่งติดทางเดิน
window seat (noun - วินโดว์ ซีท) ที่นั่งติดหน้าต่าง
runway (noun - รันเวย์) ทางขึ้นลงของเครื่องบิน

jet lag (เจท แลก) เอาการเหนื่อยล้า มึนงง นอนไม่หลับ มักจะเกิดกับการขึ้นเครื่องบินทางไกลไปต่างประเทศ ซึ่งมี timezones (noun - ไทมฺโซน - เข็ตแบ่งเวลา) ต่างกัน

arrivals (noun - อะไร'เวิลซ์) ขาเข้า
departures (noun -ดีพาร์'เชอะซ์) ขาออก
arrival passenger (noun - อะไร'เวิล แพส'เซนเจอะ) ผู้โดยสารขาเข้า
departure passenger (noun - ดีพาร์'เชอะ แพส'เซนเจอะ) ผุ้โดยสารขาออก
emergency exit (noun - อิเมอ'เจินซี) ทางออกฉุกเฉิน
refreshments (noun - รีเฟรช'เมินทฺ) เครื่องดื่มและอาหารว่าง
turbulence (noun - เทอ'บิวเลินซฺ) การบินที่ไม่ราบรื่น
seatbelt (noun - ซีทเบลทฺ) เข็มขัดนิรภัยบนที่นั่ง
blanket (noun - แบลงกิท) ผ้าห่ม

oxygen mask (noun - ออค'ซิเจน แมสคฺ/มาสคฺ) หน้ากากก๊าซออกซิเจน
x-ray scanner/machine (noun - เอคซเร สแกนเนอร์/มะชีน) เครื่องเอกซฺเรย์
touch down (noun/verb - ทัชฺ ดาวน์) จุดที่ล้อเครื่องบินแตะลงสู่พื้นดินเพื่อจอด
life vest/jacket (noun - ไลฟ์ เฝสท์/แจคกิจ) ชุดชูชีพช่วยชีวิตเมื่อต้องลงจอดฉุกเฉินในน้ำ
call light (noun - คอล ไลทฺ) ปุ่มที่ผู้โดยสารใช้กดเรียกพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
cabin (noun - แคบ'บิน) พื้นที่ภายในของเครื่องบิน

window shade (noun - แคบ'บิน)
tray table (noun - เทร เทเบิล) โต๊ะหน้าที่นั่ง
flight information (ไฟล์ทฺ อินฟอร์เม'เชิน ) ข้อมูลเกี่ยวกับเที่ยวบิน
departures board (noun - ดีพาร์'เชอะซ์ บอร์ด) กระดานแจ้งเที่ยวบินขาออก
arrivals board (noun - อะไร'เวิลซ์ บอร์ด) กระดานแจ้งเที่ยวบินขาเข้า
conveyor belt (noun - คันเว'เออะ เบลทฺ) สายพานลำเลีย
customs (noun - คัส'เทิมซ) อากรศุลกากร

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่เกี่ยวข้องกับการลางาน

ลาป่วย ลาพักร้อน การลาต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษ

leave  (N) ลีฝ การลา
sickness  (N) ซิคเนส ป่วย
illness  (N) อิลเนส ป่วย
on leave  (V) ออน ลีฝ อยู่ในช่วงการลา
take day off  (V) เทค เดย์ ออฟ หยุดงาน


take time off  (V) เทค ไทม์ ออฟ หยุดงาน
sick leave  (N) ซิค ลีฝ ลาป่วย
certificate  (N) ซอร์ทิฟิคิท ใบรับรอง หนังสือรับรอง
call in sick  (V) คอล อิน ซิค โทรลาป่วย
entitlement   (N) เอนไทเทิลมัน สิทธิ์

beforehand  (ADV) บีฟอร์แฮนด์ ล่วงหน้า
in advance  (ADV) อิน แอดวานซ์/แอดแวนซ์​ ล่วงหน้า
notification  (N) โนทิฟิเคเชิน การแจ้งเตือน

annual/vacation leave (noun - แอนนวล/เวเคเชิน ลีฝ)  ลาพักร้อน
private/personal leave (noun - ไพร์วิท/เพอร์ซันนัล ลีฝ) ลากิจ

maternity leave (noun - มะเทอะนะที ลีฝ) ลาคลอด

family responsibility leave (noun - แฟมิลี เรสปอนซิบิลิที ลีฝ) หรือบางที่ก็เรียกว่า family care leave (noun - แฟมิลี แคร์ ลีฝ) ก็คือ การลาหยุดเพื่อดูแลครอบครัว เช่น หยุดเฝ้าไข้ลูก งานศพสมาชิกครอบครัว

compassionate/bereavement leave (noun - คัมแพชเชินนิท/บิรีฝมัน ลีฝ) ลาหยุดเมื่อครอบครัวหรือญาติใกล้ชิดเสียชีวิต

study leave (noun - สตัดดิ ลีฝ) ลาไปเรียนต่อ

marriage leave (noun - แมร์ริจ ลีฝ) ลาไปแต่งงาน

paternity leave  (noun - พะเทอร์นะที ลีฝ) สิทธิของบิดาในการลาเพื่อดูแลบุตร

ordination leave  (noun - ออร์ดิแนเชิล ลีฝ) ลาบวช

military service leave (noun - มิลิแทริ เซอร์วิซ ลีฝ) ลารับราชการทหาร

ที่พักอาศัย คำศัพท์ภาษาอังกฤษ เรียกอย่างไรบ้าง

คอนโด อาพาร์ทเม้นท์ แฟลต หลายสิ่งก่อสร้างที่ลักษณะคล้ายๆ กัน แต่ก็มีความแตกต่างที่ทำให้เรียกไม่เหมือนกัน วันนี้มีคำศัพท์ที่พักอาศัยในภาษาอังกฤษมาฝากค่ะ

รูปแบบที่อยู่อาศัย (Types of Housing)

apartment / flat = ที่พักอาศัยประเภทอาคารห้องชุด

bungalow = ที่พักอาศัยประเภทบ้านชั้นเดียว

condominium/condo = ที่พักอาศัยประเภทห้องชุดพักอาศัย คอนโดมิเนียม/คอนโด

caravan = ที่พักอาศัยประเภทรถบ้าน


cabin : แคบบิน กระท่อม

castle = ที่พักอาศัยประเภทปราสาท

cottage = ที่พักอาศัยประเภทบ้านเล็ก (ในชนบท)

desert tent = ที่พักอาศัยประเภทกระโจมในทะเลทราย

house = ที่พักอาศัยประเภทบ้าน(เดี่ยว)

Single-family house : บ้านเดี่ยว

houseboat = ที่พักอาศัยประเภทเรือบ้าน / บ้านบนน้ำ

hut = ที่พักอาศัยประเภทกระท่อม

farmhouse : บ้านไร่

igloo = ที่พักอาศัยประเภทกระท่อมน้ำแข็ง

mobile home = ที่พักอาศัยประเภทบ้านเคลื่อนที่

stately home = ที่พักอาศัยประเภทคฤหาสน์

townhouse = ที่พักอาศัยประเภทบ้านที่สร้างติดกัน

town home : บ้านที่มีกำแพงติดกัน

Twin house : บ้านแฝด

Nursing home : เนิซซิง โฮม สถานที่ดูแลรักษาคนสูงอายุหรือผู้ทุพลภาพ

Shelter เชลเทอะ ที่พักอาศัย ที่หลบภัย

Rent room : เร้นท์ รูม ห้องเช่า

Dormitory/dorm : ดอมิโทรี/ดอม หอพักนักศึกษา

Duplex : ดูเพลกซฺ บ้านสำหรับอยู่ 2 ครอบครัว

อ่านเพิ่มเติม https://quizlet.com

AM-PM การบอกเวลา ภาษาอังกฤษ

การบอกเวลา ภาษาอังกฤษ AM-PM ใช้ยังไง

คนไทยเราบอกเวลากันโดยใช้ 24 ชั่วโมงเป็นหลัก แต่ในสากลนิยมใช้ 12 AM – 12 PM โดยปกติจะใช้การบอกเวลาแบบ 12 ชั่วโมง ส่วนการบอกเวลาแบบ 24 ชั่วโมง ใช้สำหรับตารางเวลาการเดินทาง


บอกเวลาแบบภาษาอังกฤษ

แบบ British English : AM – PM
ใช้ระบบเวลาแบบ 12 ชั่วโมง (12-hour clock) โดยจะใช้เลข 1 ถึง 12 ตามด้วย a.m. และ p.m.

- AM ย่อมาจาก ante meridiem = ใช้เวลา หลังเที่ยงคืน ถึง ก่อนเที่ยงวัน เริ่มที่ 00.01 น.ไปจนถึง 11.59 น.
- PM ย่อมาจาก post meridiem = ใช้เวลา หลังเที่ยงวัน ถึง ก่อนเที่ยงคืน เริ่มตอน 12.01 น.ไปจนถึง 23.59 น

เวลาเต็มชั่วโมง
ให้เติมคำว่า “o’clock” ท้ายเวลา อาจเติมคำบอกเวลา หรือพูด “เอ-เอ็ม” และ “พี-เอ็ม” เพื่อให้สามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น ตัวอย่าง

10.00 a.m. = ten o’clock in the morning หรือ ten a.m. (เท็น-เอ-เอ็ม)
04.00 p.m. = four o’clock in the afternoon หรือ four p.m. (โฟร์-พี-เอ็ม)

การถามเวลาเป็นภาษาอังกฤษ

What’s the time? = ตอนนี้กี่โมง
What time is it? = ตอนนี้กี่โมง
Could you tell me the time, please? = ช่วยบอกเวลาตอนนี้ได้ไหม
Do you happen to have the time? = คุณรู้ไหมตอนนี้กี่โมงแล้ว
Do you know what time it is? = คุณรู้ไหมตอนนี้กี่โมงแล้ว

การตอบ-บอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษ

It’s … = ตอนนี้…
exactly … = …ตรง
about … = ประมาณ…
almost … = เกือบ…
just gone … = เพิ่ง…

one o’clock = ตีหนึ่ง/สิบสามนาฬิกา
two o’clock = ตีสอง/สิบสี่นาฬิกา
three o’clock = ตีสาม/สิบห้านาฬิกา
four o’clock = ตีสี่/สิบหกนาฬิกา
five o’clock = ตีห้า/สิบเจ็ดนาฬิกา

six o’clock = หกโมง/สิบแปดนาฬิกา
seven o’clock = เจ็ดโมง/สิบเก้านาฬิกา
eight o’clock = แปดโมง/ยี่สิบนาฬิกา
nine o’clock = เก้าโมง/ยี่สิบเอ็ดนาฬิกา

ten o’clock = สิบโมง/ยี่สิบสองนาฬิกา
eleven o’clock = สิบเอ็ดโมง/ยี่สิบสามนาฬิกา
twelve o’clock = สิบสองนาฬิกา/ยี่สิบสี่นาฬิกา

หลักการบอกเวลาแบบภาษาอังกฤษ

การบอกเวลาแบบ American English

จะใช้ระบบเวลาแบบ 24 ชั่วโมง (24-hour clock) ใช้ตั้งแต่เลข 0 ไปจนถึง 24 ซึ่งจะไม่มี a.m. และ p.m.โดยจะบอกเลขชั่วโมงก่อนตามด้วยเลขนาที ซึ่งมักจะใช้ในทางทหารหรืองานที่เป็นทางการเพื่อความเข้าใจ

เช่น 20.15 หรือ twenty fifteen หรือ 10.40 หรือ ten forty

ทั้งนี้หากเป็นเวลา 06.05 จะอ่านว่า six O five (ซิกส์-โอ-ไฟฟ์) ใช้เสียง O (โอ) แทนเลขศูนย์

การบอกเวลาสามารถเติมคำประมาณได้ด้วย อย่าง about, around หรือ nearly เช่น 06.02 หรือ It’s about six o’clock หรือ 08.27 หรือ It’s nearly half past nine

เที่ยงวันกับเที่ยงคืน ต้องพูดยังไง?

นอกจาก 12 AM 12 PM แล้ว ก็จะใช้เป็น เที่ยงวัน = 12 noon หรือ 12 midday ในขณะที่ เที่ยงคืนใช้ 12 midnight อย่าสับสน 12.00 a.m. จะหมายถึงเวลาเที่ยงคืน (midnight)
แต่ถ้านาฬิกาบอกเวลา 12.00 p.m. จะหมายถึงเวลาเที่ยงวัน

ประจำเดือน (เมนส์) ภาษาอังกฤษ

ประจำเดือน (เมนส์) ภาษาอังกฤษ เรื่องที่ผู้หญิงต้องพูดให้ถูก
สาวๆ หลายคนไม่รู้จักคำนี้

ประจำเดือน ภาษาอังกฤษ
หลายคนพูดแต่ว่า เมนส์ แต่ยังมีคำน่าสนใจกว่านั้นอีกนะคะ

เป็นเมนส์ ภาษาอังกฤษ Period
ประจำเดือน ภาษาอังกฤษ : menstruation ช่วงมีประจำเดือน
หรือถ้าจะเรียกสั้นๆ คือ menses (เมนส์)
ผ้าอนามัย ภาษาอังกฤษ : napkin หรือ sanitary pad



ที่บ้าน At home คำศัพท์ภาษาอังกฤษ-แปลไทย ส่วนต่างๆ ในบ้าน

ข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน ภาษาอังกฤษ

ห้องนอน = bedroom
ห้องนั่งเล่น = living room


คำแปล  คำศัพท์  คำอ่าน
เกี่ยวกับห้องนอน
เตียงนอน  =  bed  =  (เบด)
ผ้านวม  =  duvet  =  (ดูเว่)
ผ้าปูเตียง  =  sheet  =   (ชีท)
หมอน  =  pillow  =   (พิลโล)

เครื่องใช้อื่นๆ
ตะเกียง  =  lamp  =   (แลมพ์)
โทรศัพท์  =  telephone  =   (เทเลโฟน)
เทปวิดิโอ  =  video  =   (วิดดิโอ)
แผงกระจายความร้อน  =  radiator  =   (เรดิเอเทอะ)
แผ่นซีดี  =  CD  =   (ซีดี)

พรมเช็ดเท้า  =  rug  =   (รัก)
พรม  =  carpet  =   (คาพิท)

ตู้เสื้อผ้า  =  wardrobe  =   (วอดโรบ)
กระจก  =  mirror  =  (มีเรอะ)
แปรงผม  =  brush  =   (บรัช)
หวี  =  comb  =   (โคม)

ตู้ลิ้นชัก  =  chest of drawers  =   (เชสท์ ออฟ ดรอเออะส)
รูปภาพ  =  picture  =   (พิกเชอะ)
ที่แขวนของเบ็ดเตล็ด  =  peg  =   (เพก)
บันได  =  stairs  =   (สแตร์ส)
จดหมาย  =  letter  =   (เล็ทเทอะ)
โต๊ะ  =  table  =   (เทเบิล)
หนังสือพิมพ์  =  newspaper  =   (นิวสเพเพอะ)

เกี่ยวกับห้องนั่งเล่น
หมอนอิง  =  cushion  =   (คูชั่น)
วิทยุ  =  radio  =   (เรดิโอ)
เก้าอี้  =  chair  =  (แช)
เก้าอี้นวม  =  sofa  =   (โซฟา)

ในห้องน้ำ
ยาสีฟัน  =  toothpaste  =   (ทูธเพสท)
ผ้าเช็ดตัว  =  towel  =   (เทาอัล)
ฝักบัวอาบน้ำ  =  shower  =   (เชาเออะ)
อ่างล้างหน้า  =  washbasin  =   (วอชเบซิน)
ส้วม  =  toilet  =   (ทอยเลิท)

ในห้องครัว
ฟองน้ำ  =  sponge  =   (สพันจ์)
น้ำ  =  water  =   (วอเทอะ)
แปรงสีฟัน  =  toothbrush  =   (ทูธบรัช)
กระดาษชำระ  =  toilet paper  =   (ทอยเลิทเพเพอะ)
ก๊อกน้ำ  =  tap  =   (แท็พ)
สบู่  =  soap  =   (โซพ)
อ่างอาบน้ำ  =  bath  =   (บาธ)

ห้องนอน ของใช้ต่างๆ ภาษาอังกฤษ

มีอะไรในห้องนอนบ้าง? เรามีคำศัพท์ภาษาอังกฤษให้เรียนรู้ในห้องนอนมาฝากค่ะ

bedroom = ห้องนอน

bed = เตียง
single bed = เตียงเดี่ยว
double bed = เตียงคู่
bunk bed = เตียงนอน 2 ชั้น


headboard = หัวเตียง
foot board = พนักเตียง
bedspread = ผ้าคลุมเตียง
quilt = ผ้านวมคลุมเตียง
blanket = ผ้าห่ม

bookshelf = ชั้นวางหนังสือ
night table = โต๊ะเล็กๆข้างเตียง

pillow case = ปลอกหมอน
pillow = หมอนหนุน
bolster = หมอนข้าง
mattress = ฟูก,ที่นอน

ผ้านวม = quilt = ควิลทฺ

sofa bed = เก้าอี้นวมยาวปลับนอนได้
mosquito net = มุ้ง
drawer = ลิ้นชัก
searchligh = ไฟฉาย

fan = พัดลม
air purifier = เครื่องฟอกอากาศ = แอ พู’ ริไฟเออะ

dall = ตุ๊กตา
crib = ที่นอนเด็กเล็ก
cradle = เปลเด็ก
radio = วิทยุ

อารมณ์ ความรู้สึก Emotion ภาษาอังกฤษ

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับอารมณ์ ความรู้สึก  Emotion (อิโม-ฌัน)  ที่ควรรู้ เพื่อใช้สื่อสารบอกอารมณ์และความรู้สึกได้อย่างเข้าใจ ชัดเจน และตรงประเด็น ตรงความรู้สึกมากขึ้น

อารมณ์ ความรู้สึก  Emotion

A
afraid (อัฟเรด-) = เกรงกลัว, หวาดหวั่น
agitated (แอจ-อิเททิด) = ตื่นเต้น, กระวนกระวาย
alarmed (อะลามด-) = ตื่นตระหนก
angry (แอง-กริ) = โกรธ, โมโห
antsy (แอ๊น-ซี) = ประหม่า, วิตกกังวล
anxious (แอง-ฌัซ) = ร้อนใจ, กระวนกระวายใจ
apprehensive (แอพริเฮน-ซิฝ) = เกรงกลัว, หวาดหวั่น
ashamed (อะเฌมด-) = ละอายใจ
awful (ออ-ฟุล) = น่ากลัว, น่ายำเกรง
awkward (ออค-เวิด) = เชื่องช้า, อึกอัก


B
bashful (แบฌ-ฟุล) = อาย, เขิน
bewildered (บิวิ๊ล-เดิรด) = เลิกลั่ก, สับสน
bitter (บีท-เทอะ) = ขมขื่น
bored (บอร-ด) = เบื่อ
brave (บเรฝ) = กล้าหาญ

C
calm (คาม) = สงบ, ใจเย็น
caring (แค๊-ริ่ง) = เอาใจใส่, เป็นห่วง
cautious (คอ-ฌัซ) = รอบคอบ, ระมัดระวัง
cheerful (เชีย-ฟุล) = ร่าเริง, เบิกบาน
comfortable (คัมฟ-ถะเบิล) = สบาย, สุขสบาย
concerned (ค็อนเซินด-) = กังวล, เป็นห่วง
confident (คอน-ฟิเด็นท) = มั่นใจ, เชื่อมั่น
confused (ค็อนฟยูสด-) = สับสน, งงงวย
content (ค็อนเทนท-) = อิ่มอกอิ่มใจ
critical (ครีท-อิแค็ล) = ตึงเครียด
cross (คร็อซ) = โกรธ, ฉุนเฉียว
curious (คยู-เรียซ) = อยา่กรู้อยากเห็น
cynical (ซีน-อิแค็ล) = ดูถูก, เหยียดหยาม, เยาะเย้ย

D
depressed (ดิพเรซท-) = หดหู่, เศร้าซึม, ไม่เบิกบาน
delighted (ดีไล๊ท-ถึ่ด) = สุขใจ, ปิติยินดี
disappointed (ดิแซ็พพอยน-ทิด) = ผิดหวัง
discouraged (ดิสเก๊อะเรจช) = ท้อใจ
disgusted (ดิซกัซ-ทิด) = รังเกียจ
distressed (ดิซทเรซท-) = คับอกคับใจ
disturbed (ดิส-เทิรบด) = กระวนกระวายใจ
down (เดาน) = เศร้าใจ

E
eager (อี-เกอะ) = กระตือรือร้น, ทะเยอทะยาน
edgy (เอจ-อิ) = หงุดหงิด
embarrassed (เอ็มแบ-แร็ซท) = เขินอาย, ขวยเขิน
encouraged (เอ็น-คอเรจด) = มีกำลังใจ
enraged (เอ็นเรจด) = เกรี้ยวกราด
enthused (เอ็นธยูสด) = กระตือรือร้น
exasperated (เอ็กแสซ-เพอะเรทด) = ฉุนเฉียว
excited (เอ็คไซทด) = ตื่นเต้น
exhausted (เอ็กสอซทด) = เมื่อยล้า

F
fatigued (ฟะทีกด-) = เหน็ดเหนื่อย, เพลีย, ล้า
fearful (เฟีย-ฟุล) = หวั่นเกรง
fidgety (ฟีจ-เอะทิ) = หงุดหงิด
frightened (ไฟรท-อึ่นด) = ตกใจ
frustrated (ฟรัซทเรท-อิด) = สิ้นหวัง
funny (ฟัน-นิ) = ตลก, สนุกสนาน
furious (ฟยู-เรียซ) = กราดเกรี้ยว

G
gloomy (กลูม-อิ) = เศร้าใจ
greedy (กรีด-อิ) = โลภ, ละโมบ
grouchy (เกร๊า-ฌิ) = หงุดหงิด
guilty (กีล-ทิ) = รู้สึกผิด

H
happy (แฮพ-พิ) = สุขใจ
hassled (แฮซ-เซิล) = รบกวน
hateful (เฮท-ฟุล) = น่ารังเกียจ
helpless (เฮลพ-เล็ซ) = หมดหนทาง
hesitant (เฮส-อิ-แท็นท) = ลังเล
hopeful (โฮพ-ฟุล) = เต็มไปด้วยความหวัง
horrible (ฮ๊อ-เรอะเบิ่ล) = น่าขนลุก
hostile (ฮอซ-ทิล) = ไม่เป็นมิตร
hurt (เฮิท) = ช้ำใจ
hysterical (ฮิซเท-ริแค็ล) = รบกวน

I
impatient (อิมเพ-เฌ็นท) = กระวนกระวาย
indifferent (อินดีฟ-เฟอะเร็นท) = ไม่แยแส, ไม่ไยดี
inferior (อินเฟีย-เรียะ) = น้อยหน้า, ด้อย
insecure (อินซิคยูร-) = ไม่มั่นคง
intense (อินเทนซ-) = รุนแรง
irate (ไอเรท-) = โกรธ, แค้น
irked (เอริคด) = น่ารำคาญ
irritated (อี-ริเททด) = ขุ่นเคือง

J
jealous (เจล-อัซ) = อิจฉา
jittery (จิ๊ทะหริ่) = กระวนกระวายใจ
joyous (จอย-อัซ) = ครื้นเครง

L
lazy (เล-ซิ่) = เกียจคร้าน
leery (เลีย-ริ) = โกง
lonely (โลน-ลิ) = โดดเดี่ยว
loved (ลัฝด) = รักใคร่
loving (ลัฝ-อิง) = ซึ่งรักใคร่

M
mad (แม็ด) = คลั่ง
mean (มีน) = ใจแคบ
mischievous (มีซ-ชิฝัซ) = ร้าย
miserable (มีซ-ซรเบิ่ล) = ห่อเหี่ยว
moody (มูด-อิ) = หงุดหงิด

N
nervous (เนอ-ฝัซ) = หวาดกลัว
nice (ไนซ) = น่าคบหา
numb (นัม) = มึนงง
overwhelmed (โอเฝอะฮเวลม-ด) = ล้นหลาม

P
panicky (แพน-อิคิ) = เสียขวัญ
patient (เพ-เฌ็นท) = ใจเย็น
pessimistic (เพซิ-มีซ-ทิค) = มองโลกในแง่ร้าย
pleased (พลีสด) = ยินดี
proud (พเราด) = ภาคภูมิใจ
puzzled (พัซเซิลด) = งงงวย

Q
queasy (ควี-สิ) = ไม่สบายใจ

R
reluctant (ริลัค-แท็นท) = กระอึกกระอัก
resentful (ริเสนท-ฟุล) = ขุ่นเคือง
restless (เรซท-เล็ซ) = ร้อนใจ
ridiculous (ริดีค-อิวลัซ) = น่าขัน
riled (ไรลด) = ระคายเคือง, ขุ่นเคือง

S
sad (แซ็ด) = เศร้าใจ
safe (เซฟ) = ปลอดภัย
scared (ซแคด) = หวาดหลัว
secure (ซิคยูร-) = มั่นคง, ปลอดภัย
sensitive (เซน-ซิทิฝ) = ใจน้อย
shaky (เฌค-อิ) = สั่นคลอน
shocked (ฌ็อค) = ผวา
shy (ไฌ) = เขินอาย
silly (ซีล-ลิ) = โง่เขลา
sleepy (ซลีพ-อิ) = งัวเงีย, ง่วงเหงา
sorry (ซอ-ริ) = อเสียใจ
stressed (ซทเร็ซด) = เครียด
surprised (เซิพไรส-ด) = ประหลาดใจ
suspicious (ซัซพิฌ-อัซ) = ไม่ไว้วางใจ
sympathetic (ซิมพะเธท-อิค) = เห็นใจ

T
terrified (เท-ริไฟด) = หวั่นกลัว
tired (ไทรด) = เหนื่อย
troubled (ทรั๊บเบิ่ลด) = เป็นทุกข์

U
uncomfortable (อัน-คอมฟถะเบิ่ล) = อึดอัด
unsafe (อัน-เซฟ) = ไม่ปลอดภัย
unsettled (อัน-เซทึ่ลด) = หลักลอย
upset (อัพ-เซ็ฑ) = อารมณ์เสีย, เสียใจ

V
vicious (ฝีฌ-อัซ) = ร้ายกาจ
victorious (ฝีค-โทะเรียซ) = มีชัย

W
warm (วอม) = อบอุ่น
weary (เวีย-ริ) = เหนื่อย, เมื่อยล้า
wonderful (วัน-เดอะฟุล) = มหัศจรรย์
worried (วอร-อิด) = กระวนกระวายใจ

X
excited (เอ็คไซท-อิด) = ตื่นเต้น
exhausted (เอ็กสอซ-ทิด) = หมดกำลัง

ร่างกาย Body คำศัพท์ภาษาอังกฤษ

คำศัพท์ส่วนหัวและใบหน้า ภาษาอังกฤษ Face and Head

beard (เบียร์ด) = เครา
cheek (ชีค) = แก้ม
chin (ชิน) = คาง
head (เฮด) = ศีรษะ
hair (แฮร์) = ผม


ear (เอียร์) = หู
eye (อาย) = ตา
eyebrow (อาย’เบรา) = คิ้ว
eardrum = เยื่อแก้วหู
earlobe = ใบหู [ติ่งหู]

eyelash = ขนตา
eyelid = เปลือกตา
forehead (ฟอร์’เฮด) = หน้าผาก
freckles = กระ
jaw (จอ) = ขากรรไกร

lip (ลิพ) = ริมฝีปาก
mouth (เมาธฺ) = ปาก
nose (โนซ) = จมูก
nostril (นอส’ทริล) = รูจมูก, โพรงจมูก
moustache (มัส’ทาช) = หนวด

tongue (ทัง) = ลิ้น
tooth (ทูธ) = ฟัน ซี่เดียว
teeth (ทีธ) = ฟัน หลายซี่
wrinkle (ริง’เคิล) = ริ้วรอย

คำศัพท์ร่างกายส่วนบน ภาษาอังกฤษ
Adam’s apple = ลูกกระเดือก
arm (อาร์ม) = แขน
armpit (อาร์ม’พิท) = รักแร้
back (แบค) = หลัง
breast = เต้านม

chest = หน้าอก
elbow = ข้อศอก
hand = มือ
finger = นิ้วมือ

fingernail = เล็บมือ
forearm = แขนท่อนล่าง
knuckle = ข้อนิ้วมือ
navel / belly button = สะดือ
neck = คอ
nipple = หัวนม

palm = ฝ่ามือ
shoulder = หัวไหล่
throat = ลำคอ
thumb = นิ้วหัวแม่มือ
waist = เอว
wrist = ข้อมือ

คำศัพท์ร่างกายช่วงล่าง ภาษาอังกฤษ
ankle = ข้อเท้า
anus= ทวารหนัก
belly= หน้าท้อง
big toe = นิ้วหัวแม่เท้า
bottom = ก้น [สแลง: bum]

buttocks = สะโพก
calf = น่อง
foot = เท้า 1 ข้าง
feet = เท้า 2 ข้าง [หรือมากกว่า]
genitals = อวัยวะเพศ
groin = ขาหนีบ
heel = ส้นเท้า

hip = สะโพก
knee = หัวเข่า
leg = ขา
penis = อวัยวะเพศชาย
pubic hair = ขนอวัยวะเพศ
shin = หน้าแข้ง
sole = ฝ่าเท้า

testicles = อัณฑะ
thigh = ต้นขา
toe = นิ้วเท้า
toenail = เล็บเท้า
vagina = ช่องคลอด

คำศัพท์ส่วนต่างๆ ของตา ภาษาอังกฤษ
cornea = แก้วตา
eye socket = เบ้าตา
eyeball = ลูกตา
iris = ม่านตา
retina = จอประสาทตา
pupil = รูม่านตา

คำศัพท์ส่วนต่างๆ ภายในร่างกาย
Achilles tendon = เอ็นเหนือส้นเท้า
artery = หลอดเลือดแดง
appendix = ไส้ติ่ง
bladder = กระเพาะปัสสาวะ
blood vessel = เส้นเลือด
brain = สมอง

cartilage = กระดูกอ่อน
colon = ลำไส้ใหญ่
gall bladder / gallbladder = ถุงน้ำดี
heart = หัวใจ

intestines = ลำไส้
large intestine = ลำไส้ใหญ่
small intestine = ลำไส้เล็ก
kidneys = ไต

ligament = เอ็น
liver = ตับ
lungs = ปอด
oesophagus = หลอดอาหาร
pancreas = ตับอ่อน
organ = อวัยวะ

prostate gland / prostate = ต่อมลูกหมาก
rectum = ช่องทวารหนัก
spleen = ม้าม
stomach = ท้อง
tendon = เส้นเอ็น
tonsils = ทอนซิล

vein = หลอดเลือดดำ
windpipe = หลอดลม
womb / uterus = มดลูก

คำศัพท์เกี่ยวกับกระดูก
collarbone / clavicle = กระดูกไหปลาร้า
thigh bone / femur = กระดูกต้นขา
humerus = กระดูกต้นแขน

kneecap = กระดูกสะบ้า
pelvis = กระดูกเชิงกราน
rib = ซี่โครง
rib cage = กระดูกซี่โครง
skeleton = โครงกระดูก
skull = กระโหลก
spine / backbone = กระดูกสันหลัง
vertebra (พหูพจน์: vertebrae) = กระดูกสันหลัง

คำศัพท์ของเหลวในร่างกาย
bile = น้ำดี
blood = เลือด
mucus = เมือก
phlegm = เสมหะ
saliva / spit = น้ำลาย

semen = น้ำอสุจิ
sweat / perspiration = เหงื่อ
tears = น้ำตา
urine = ปัสสาวะ
vomit = อาเจียน

คำศัพท์ และวลีภาษาอังกฤษเกี่ยวกับร่างกาย ที่ควรรู้
bone = กระดูก
fat = ไขมัน
flesh = เนื้อ
gland = ต่อม

joint = ข้อต่อ
limb = แขนขา
muscle = กล้ามเนื้อ
nerve = เส้นประสาท

skin = ผิวหนัง
digestive system = ระบบย่อย
nervous system = ระบบประสาท
to breathe = หายใจ
to cry = ร้องไห้
to hiccup = สะอึก
to have the hiccups = สะอึก

to sneeze = จาม
to sweat / to perspire = เหงื่อออก
to urinate = ปัสสาวะ
to vomit = อาเจียน
to yawn = หาว

คำศัพท์ระบบประสาทสัมผัส
smell = ดม
touch = สัมผัส
sight = เห็น
hearing = การได้ยิน

to smell = ดม
to touch = สัมผัส
to see = เห็น
to hear = ได้ยิน
to taste = ชิม
taste = รสชาติ