ใน Are you in his face or giving him too much space ? คุณยังอยู่ในสายตาของเขาหรือ ทิ้งระยะห่างจากเขามากไปแล้ว ? จัดแจงแบ่งระดับความผูกพันออกเป็น 3 โซน ดังต่อไปนี้
ทิ้งระยะห่างน้อยเกินไป ได้แก่...
คุณมักตามติดเขาต้อยๆไปไหนต่อไหนด้วยกันเสมอ ขนาดเขาบอกว่า จะออกไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง ก็ยังขอตามไปด้วย เห็นทีจะเป็นจอมตื๊อบันลือโลก
คุณมักยุให้เขาเปลี่ยนบุคลิกหรือรูปลักษณ์ของเขาบ่อยๆ ประมาณไม่ชอบ ความเป็นอยู่แบบขอ ไปทีอย่างนี้เท่าไหร่นัก
คุณเข้าไปจับจองพื้นที่ครึ่งหนึ่งในตู้เสื้อผ้าของเขา ทำหยั่งกะอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน แล้วงั้นแหละ ทั้งที่ยังไม่ได้เป็นแบบนั้นเสียหน่อย
คู่ที่เข้าข่ายทิ้งระยะห่างกันน้อยไป ถ้ารักกันมากจะเห็นว่า ใกล้ชิดกันแบบนี้น่ะดี ตรงข้ามหากคู่ไหน ความรักยังแค่ลุ่มๆ ดอนๆ อาจทำให้ต่างฝ่ายต่างรู้สึกตะขิดตะขวงใจขึ้นมาได้ แค่เป็นแฟน ยังตาม รังควานถึงเพียงนี้ แล้วถ้าได้ครองคู่เป็นทองแผ่นเดียวกัน ไม่ยิ่งตามราวีเป็นก้างขวางคอหนัก กว่านี้หรือ
ทิ้งระยะห่างในระดับพอเหมาะพอดี ก็อาทิ...
คุณจะเข้าไปจอยกับเพื่อนของเขาก็ต่อเมื่อได้รับเทียบเชิญเท่านั้น ถ้าเค้าไม่เชิญ เราจะไปทำไมให้หน้าแหกล่ะจ๊ะ
คุณใช้วิธีบอกใบ้ให้เขารู้ว่า เสื้อผ้าที่เขาสวมมันดูเก่า โบราณพ้นสมัยไปแล้วนะ เขาจะได้สำนึกว่า ควรแต่งกายให้เข้ากับยุคสมัยมิลเลนเนียมเสียที
คุณทิ้งแค่ชุดชั้นในกับแปรงสีฟันไว้ในที่พักของเขาเท่านั้น ไม่ใช่หอบผ้าหอบผ่อน มาวางจนเกลื่อนบ้าน
ว่ากันว่า คู่ที่เว้นระยะห่างจากกันพอประมาณอย่างนี้ น่าจะช่วยผ่อนคลาย ความอึดอัดซึ่งมีต่อกัน และกันได้มากทีเดียว แต่ปัญหาก็คือ เว้นระยะห่างแค่ไหนล่ะ ถึงจะเรียกว่าพอดี ไม่รัดติ้วเกินไป ขณะเดียวกันก็ไม่หลวมโพรกจนไร้ความรู้สึกผูกพัน หรือความเสน่หาต่อกันไปซะก่อน
ทิ้งระยะห่างมากเกินไป เช่น
คุณไม่รู้จักเพื่อนของเขาสักคน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาไม่แนะนำให้รู้จัก หรือคุณไม่อยากรู้จักเอง แต่ที่แน่ๆ คุณก็มีกลุ่มเพื่อนของคุณอยู่แล้ว เลยไม่รู้จะไปสนใจเพื่อนของเขาอีกทำไม
คุณถือว่า ตู้เสื้อผ้าของเขาก็คือเรื่องของเขา คุณไม่ใช่แม่เขานี่ จะได้ไปตามเช็ก ตามสำรวจ ตามตรวจสอบให้เมื่อยตุ้ม
คุณมักจะหิ้วแปรงสีฟันพกติดตัวเวลาไปยังบ้านของเขาเสมอ เพราะคุณไม่ได้ทิ้งแปรงให้เขา ไว้ดูต่างหน้ายามที่คุณไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วยนี่หว่า อย่างนี้ จะว่าห่างเหินกันไปหน่อยก็ได้
แต่บางคนอาจแย้งว่า ห่างๆ กันซะบ้างน่ะดีแล้ว ขืนใกล้กันมาก เดี๋ยวก็กัดกันไม่เลิก เป็นงั้นไป เค้าเรียก รักกันแบบเจ็บๆ คงสะใจไม่เบา ใช่ไหมล่ะ
กระนั้น อ่านแล้วก็อย่ามาถามให้ยากเลย ว่าคู่ของหนูควรทิ้งช่องไฟให้ห่างกันแค่ไหน ถึงจะดีคะ…โอ้ย เรื่องพรรณนี้ไตร่ตรองกันเองเถอะ อาตมาไม่อยากชี้โพรงให้กระรอก
และแล้วก็ถึงเวลาเปิดโปงกันอีกแล้ว ท่านผู้อ่านทราบไหมว่า
มีเรื่องอะไรบ้างที่ฝ่ายชายชอบปิดบังมุบเม้มเอาไว้ไม่กล้าบอกให้ ผู้หญิงรู้ ?
เค้าว่า มี 4 สิ่งที่ผู้ชายไม่กล้าพูด (4 Things He Doesn't Dare Tell You) แต่เมอร์ลินซะอย่าง ย่อมสืบมาเผยให้ฟังจนได้ มีตั้งแต่
1. เขาซ่อนหนังสือ, วีดิโอหรือวีซีดีโป๊เก็บไว้ในที่เร้นลับ เรื่องอะไรจะบอกให้แฟน " สวยซะไม่มี " รู้เล่า เว้นแต่จะชวนมาดูด้วยกัน มามะ มาดูกัน แล้วต่อจากนั้น อะไรจะเกิด ก็จินตนาการเอาแล้วกัน
2. เขาไม่กล้าพูดหรอกว่า เขาอิจฉาแฟนสาวจนตาแทบถลน หากเธอดันประสบความสำเร็จ ในหน้าที่การงานมากกว่า เพราะเท่ากับไปเหยียบจุดแห่งความมั่นใจของสุดหล่อเลยนะนั่น
3. เขาอยากบอกจะตายว่า เขานั้นแสนซื่อสัตย์ แต่ลิ้นดันจุกปาก เอ๊ะ...พูดไม่ออก หรือไม่อยากสัญญิงสัญญาให้เปลืองตัวกันแน่
4. เขามีความต้องการทางเพศทุกวัน แต่ไม่ขยันได้อย่างใจ แหม มีไม่ไหวด้วยหรือเนี่ย เห็นเป็นกระทิงดุทั้งนั้นนี่นา