เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ความรู้เกี่ยวกับไข่มุก (Pearl) เริ่มต้นจากแหล่งกำเนิดของไข่มุก อัญมณีจากสิ่งมีชีวิต
มุกมาจากสองแหล่งใหญ่คือ มุกธรรมชาติ และมุกเลี้ยง หรือบางคนแยกเป็นมุกน้ำเค็ม และมุกน้ำจืด
แหล่งมุกใหญ่ๆ
1. มุกทะเลใต้ (SOUTH SEA PEARLS)
2. มุกตาฮิติ (BLACK PEARLS) หรือมุกดำ
3. มุกอะโกยา หรือมุกญี่ปุ่น (AKOYA PEARLS)
4. มุกน้ำจืด (FRESHWATER PEARL)
รูปต่างของไข่มุก โดยทั่วไปแบ่งได้ดังนี้
1. กลม (Round)
2. กลมหรือรีเล็กน้อย (Off-Round)
3. รูปร่างอื่นๆ ที่ไม่กลม (Semi-Baroque) เช่น หยดน้ำ (Drop) รูปไข่ (Oval)
4. บาร็อค (Baroque) รูปร่างไข่มุกที่ไม่กลม บิดเบี้ยวชัดเจน บางคนเรียกว่า มุกมีหาง
ขนาดของมุก
- มุกน้ำจืด 3-10 มิลลิเมตร
- มุกญี่ปุ่น หรือ มุกอะโกยา ขนาด 6-10 มิลลิเมตร
- มุกทะเลใต้ หรือมุกดำ จะมีขนาดใหญ่สุด ตั้งแต่ 9-13 มิลลิเมตร
สีของมุก
ประกอบด้วยสีพื้นของมุกและสีรองของมุก (Overtone) หรือสีที่มองเห็นเวลามุกสะท้อนกับแสง
สีของมุกธรรมชาติ ส่วนใหญ่จะมีสีขาว ครีม เหลือง ชมพู สีเงิน และสีดำ
มุกดำ หรือเรียกอีกชื่อว่า มุกตาฮิติ
ราคาไข่มุกแท้ เม็ดละ ?
ไข่มุกแยกเป็น ไข่มุกน้ำเค็ม และ ไข่มุกน้ำจืด / โดยไข่มุกน้ำเค็มจะมีราคาสูงกว่าไข่มุกน้ำจืด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ขนาด ความวาว สีสันของไข่มุก ดังนั้นราคาเริ่มต้นไข่มุกน้ำเค็มแบบสวยๆ ขนาด 6-8 mm ขายปลีกประมาณ 200 บาท ต่อเม็ด
อื่นๆ ...
Luster คือ ความวาวของมุก
มุกที่ดีสมบูรณ์ ต้องมีสีผิวเรียบสนิทสม่ำเสมอ