มารยาทของการเดินทาง ด้วยเครื่องบิน

ในช่วงหลังๆ มานี้ หลายคนเดินทางไปเคาท์ดาวน์ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ เนื่องจากมีทางเลือกในการเดินทางทางอากาศมากขึ้นจากโปรโมชั่นน่าสนใจของสายการบินต่างๆ


แน่นอนว่าการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศต้องอาศัยบริการของเครื่องบิน เพราะรวดเร็วและประหยัดเวลา แต่บางคนไม่ชอบเพราะต้องนั่งอยู่กับเก้าอี้ครั้งละนานๆ ทำให้อึดอัด ยิ่งถ้าทริปยาวหลายชั่วโมงก็ยิ่งทำให้หงุดหงิด จะเดินไปไหนก็ไม่ได้ ยิ่งถ้าไปเจอเพื่อนผู้โดยสารที่ไม่รักษามารยาท ก็ยิ่งทำให้ทริปนั้นไม่น่าอภิรมย์มากยิ่งขึ้น หลายคนคงจำได้ที่มีข่าวผู้โดยสารชาวจีนสาดมาม่าใส่แอร์โฮสเตสหรือผู้โดยสารทะเลาะกันทำให้กัปตันตัดสินใจนำเครื่องกลับ (ในปี 2557)

เมื่อเร็วๆ นี้ เอ็กซ์พีเดีย บริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ชั้นนำของโลกทำการศึกษาเรื่อง “มารยาทของการเดินทาง ด้วยเครื่องบิน” โดยถามชาวอเมริกันจำนวน 1,000 คน ว่า การกระทำอย่างไหนของเพื่อนผู้โดยสารที่น่ารำคาญที่สุด ผลสำรวจออกมาว่า “การเตะเก้าอี้” มาเป็นอันดับ 1 ส่วนอันดับ 2 คือพ่อแม่ที่ไม่ดูแลลูก ตามมาด้วยผู้โดยสารที่ใส่น้ำหอมมากเกินไปและผู้โดยสารขี้เมา และสุดท้ายผู้โดยสารที่พูดมาก

จอห์น มอร์เรย์ รองประธานและผู้จัดการทั่วไป เอ็กซ์พีเดีย กล่าวว่า การศึกษาเรื่องนี้เพื่อเป็นการเตือนว่า มารยาทขณะที่อยู่ในเครื่องบินเป็นสิ่งจำเป็น “คุณอยู่ในที่คับแคบที่ความสูง 30,000 ฟุตกับเพื่อนผู้โดยสารหลายร้อยคน ดังนั้น สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่นการช่วยผู้โดยสารอื่นลากการกระเป๋าหรือยอมย้ายที่นั่งเพื่อให้แม่ได้นั่งใกล้ลูกเป็นสิ่งที่ควรกระทำเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี”

ผลสำรวจยังเปิดเผยว่า ถ้ามีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง 12 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสำรวจจะบันทึกเหตุการณ์นั้นไว้ ส่วน 6 เปอร์เซ็นต์กล่าวว่า พวกเขาจะโพสต์คลิปหรือภาพในทวิตเตอร์หรือเฟซบุ๊คเพื่อทำให้ผู้โดยสารคนนั้นเกิดความละอาย ในขณะที่อีก 22 เปอร์เซ็นต์จะเดินเข้าไปพูดคุยกับผู้โดยสารคนนั้นเอง

ผู้โดยสารชาย 32 เปอร์เซ็นต์และผู้โดยสารหญิง 38 เปอร์เซ็นต์ กล่าวว่า พวกเขาจะไม่ปรับพนักเก้าอี้ให้เอนลง แต่จะปรับพนักเมื่อหลับ ในขณะที่อีกจำนวนหนึ่งจะปรับพนักเมื่อต้องเดินทางมากกว่า 3 ชั่วโมง อีก 12 เปอร์เซ็นต์ปรับทันทีหลังจากเครื่องขึ้นหรือทันทีที่ผู้โดยสารข้างหน้า ทำผู้โดยสารชาวอเมริกันที่ตอบแบบสอบถามจำนวน 23 เปอร์เซ็นต์จะขออนุญาตจากผู้โดยสารด้านหลังก่อนเอนพนักลง

ส่วนความน่ารำคาญที่เกิดผู้โดยสารที่พูดมากเกินไป 16 เปอร์เซ็นต์ กล่าวว่า พวกเขาใช้การเดินทางทางอากาศนี้เพื่อหาโอกาสในการพูดคุยและพบปะคนใหม่ แต่อีก 65 เปอร์เซ็นต์เปิดเผยว่า พวกเขา “กลัว” ที่จะต้องนั่งต่อจากบุคคลอื่น คำเตือนแก่ผู้ที่ขึ้นเครื่องมาหาเพื่อนคุย “ถ้าผู้โดยสารคนอื่นกำลังอ่านหนังสือหรือแท็บเล็ต หรือใส่หูฟัง นั่นหลายถึงว่า พวกเขาไม่อยากคุยกับคนที่นั่งข้างๆ ซึ่งก็คือคุณนั่นเอง

บางคนเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส ผลสำรวจรายงานว่า ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 5 เปอร์เซ็นต์ เปิดเผยว่า พวกเขา “ใกล้ชิดสนิทสนม” กับคนบนเครื่องบินระหว่างเดินทาง ในจำนวนนี้ 2 เปอร์เซ็นต์กลายเป็นแฟนกันในที่สุด

นอกจากบนเครื่องบินแล้ว คนที่ใช้สนามบินก็น่าจะมี “มารยาท” ด้วยเหมือนกัน เช่น การใช้ทางเลื่อน ควรจะยืนชิดขวาหรือซ้ายเพื่อเว้นทางให้ผู้ที่รีบกว่าได้ไป (นี่แสดงว่า ฝรั่งเองก็ต้องให้บอกเหมือนกัน) นอกจากนี้ เว็บไซต์หนึ่งกล่าว แนะนำให้ผู้ที่จะผ่านการตรวจกระเป๋าและร่างกายให้ศึกษาก่อนว่า เขาห้ามนำน้ำหรือของเหลวอื่นๆ เกินปริมาณที่อนุญาตเข้าไปภายในเพื่อจะได้ไม่ไปต่อล้อต่อเถียงหรือต่อรองกับเจ้าหน้าที่ เพราะจะทำให้คนอื่นที่รออยู่ด้านหลังเสียเวลาโดยไม่จำเป็น

มารยาทในการรอกระเป๋าที่สายพานก็มีด้วยเช่นเดียวกัน เช่น เมื่อได้กระเป๋าแล้วควรรีบถอยออกมาเพื่อให้คนอื่นได้เข้าไปบ้าง หรือควรจะคอยให้กระเป๋าเลื่อนมาที่ตนเอง ไม่ใช่แทรกตัวเพื่อดึงกระเป๋าออกมาก่อนเพราะใจร้อน อีกกรณีหนึ่ง มีคนประเภทหนึ่งที่ตั้งใจไปเช็คอินสายเพราะพวกเขาจะได้รับอนุญาตให้ลัดคิวเพื่อเช็คอินก่อน ฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ควรทำเพราะอาจตกเครื่องได้