42 วิธีในการพัฒนาตนเอง ให้สำเร็จตามเป้าหมาย
1. จดรายการทุกอย่างที่ต้องทำพรุ่งนี้ไว้ตั้งแต่เย็นวันนี้แล้ว (เมื่อทำสำเร็จให้ขีดออก ขีดฆ่าทั้งข้อความเลย อย่ารีรอเย็นวันนี้ทำเสียเลย)
2. เก็บรายชื่องานที่ต้องกระทำหรือ แผนงานไว้ตรงหน้า ก็เพื่อให้เห็นตำตานั่นแหละ)
3. บอกตัวเองถึงประโยชน์ของงานที่วันละทำหลายๆครั้ง (จะได้มีแรงปราถนาที่จะทำ)
4. งานจะเสร็จต้องเริ่มต้นจากส่วนเล็กไปสู่ส่วนใหญ่เสมอ (งานใหญ่จะสำเร็จก็ต้องเริ่มทำทีละน้อยทั้งนั้น)
5. มีแผนการทำงานไว้หลายๆแผนเพื่อไม่ให้งานผิดพลาด (อย่ามัวโทษนั่นโทษนี่ ไม่มีอะไรง่ายจนใครๆก็ทำได้ หรือ ไม่มีอะไรยากเกินที่บางคนจะทำได้)
6. ตั้งใจให้แน่วแน่ที่จะทำให้สำเร็จ อย่าห่วงเกินไปว่าจะไม่ สำเร็จ (การกังวลทำให้เหนื่อยใจ เป็นทุกข์มากกว่าการทำงาน เสียอีก)
7. วิเคราะห์เหตุผลในการที่ไม่ค่อยสู้จะเต็มใจทำงาน (ถ้าไม่อยากทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมาย ถามตัวเองว่า คิดจะหลีกเลี่ยงอะไร หลีกพ้นใหม)
8. จดปัญหาลงในกระดาษแล้วแก้ปัญหาในกระดาษนั้น (อย่าเพียงคิดไว้ในใจ มีปัญหาอะไรระบุออกมา)
9. ใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ของผู้อื่น (สอบถาม แลกเปลี่ยน เรียนรู้จากประสบการณ์ที่คนอื่น ทำสำเร็จมาแล้ว)
10. ใช้พลังงานของเราลงไปในการทำงานให้หมด (ทำงานให้เหมือนกับว่าจะไม่ได้ทำงานอีกแล้ว คงเหลือ อะไรไว้ให้คนอื่นนึกถึงเราได้บ้าง)
11. อย่ารอให้มีแรงบรรดาลใจเกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยทำงาน (ข้อนี้ดีเหลือเกิน...เอ้าแล้วจะรออะไรอีกเล่า)
12. พัฒนาระบบเตือนความจำของตนเอง (เช่นมีเป้าหมาย รายการนัดหมาย...นาฬิกาที่ปลุกได้)
13. กำหนดให้ชัดเจนว่าเมื่อไหร่จะทำงาน (เขียนว่า"พรุ่งนี้จะทำงานนั้นเสียที"ไม่ได้ ต้องเขียนว่า... "พรุ่งนี้ 09.00 น. จะเริ่มทำงานที่ค้างไว้นั้นทันที")
14. จดบันทึกให้เป็นนิสัย (ระหว่างการบันทึกจะทำให้เรานึกอะไรได้อีกมาก)
15. จะกระทำสิ่งใดต้องพิจารณาว่าคุ้มค่าเวลาหรือไม่ (เวลามีเท่ากันทุกคน แต่บางคนทำอะไรได้น้อยมากแถม ยังบ่นว่าไม่มีเวลาเสียอีก)
16. บังคับตัวเองให้เริ่มต้น จะเกิดความเชื่อมั่นเมื่อได้เริ่มไป แล้ว(หลายคนรอฤกษ์จนป่านนี้ยังไม่ได้ทำอะไร .. เวลานี้ ฤกษ์ดีที่สุดแล้วเริ่มได้เลย)
17. เอาชนะการลืมด้วยเจตนาให้ได้ (เรามักจะลืมสิ่งที่เราไม่อยากทำ)
18. ให้สัญญาว่าจะให้รางวัลแก่ตัวเองเมื่อทำงานสำเร็จ (ให้รางวัลแก่ตัวเองในทางดี หรือด้วยสิ่งทีดีๆ)
19. ทำงานเพิ่มขึ้นทันทีเมื่อได้รับข่าวดี (เมื่องานที่ทำที่ผ่านมาส่งผลให้เห็น ก็เริ่มงานใหม่ทันที)
20. เริ่มต้นวันใหม่ด้วยความรู้สึกที่ดีและกระตือรือร้น (วันนี้เป็นวันแห่งความหวังใหม่ของทุกคน)
21. หลีกเลี่ยงการถูกชี้นำไปในทางลบ (คนที่พูดแล้วไม่ส่งเสริมกำลังใจให้เราทำงานนั้นไม่ใช่ มิตรแท้)
22. เพิ่มราคาความล้มเหลวด้วยการทำบางสิ่งบางอย่าง (ทำงานนั้นครั้งแรกไม่สำเร็จ ถ้าเลิกไปเลยก็แปลว่าเรา เหนื่อยฟรี)
23. ฝึกให้ตนเองมีทัศนคติในทางสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นทุกวัน (คิด มอง ทำ พูด ในสิ่งที่สร้างสรรค์ แล้วตัวเองจะมีค่า มากยิ่งขึ้น)
24. อย่าสับสนระหว่างคำว่า"ยาก"กับคำว่า"เป็นไปไม่ได้" (งานยากไม่มีเราไม่รู้จักทำให้มันง่ายต่างหาก)
25. เตือนตัวเองว่าการรอคอยน่ากลัวการเริ่มต้นทำงาน (ลองลงมือทำแล้วจะโล่งใจเพระเราทำได้จริงๆ)
26. พิถีพิถันกับตัวเองขึ้นอีกนิด จะทำให้ชีวิตสดใสขึ้น (การแต่งกาย เครื่องประดับ ฯลฯ)
27. แสดงให้เหมือนกับว่า เป็นไปไม่ได้ที่เราจะล้มเหลว (อย่าเผื่อใจว่าจะไม่สำเร็จ...)
28. เปลี่ยนที่วางสิ่งของในที่ทำงาน ห้องทำงาน ห้องนอนบ้าง (จะเกิดบรรยากาศใหม่ๆน่าอยู่ น่าทำงานมากขึ้นได้บ้าง)
29. ไม่มีปัญหาไม่มีความก้าวหน้า (NO PROBLEM, NO PROGRESS) (ปัญหาไม่ใช่สิ่งเลวร้าย ปัญหาคือตัวบ่งชี้ว่าจุดใดบ้างที่เรา สามารถพัฒนาได้)
30. กระตุ้นส่งเสริมกำลังใจแก่บุคคลอื่นในการทำงานบ่อยๆ (จะเป็นการสอนตัวเองและกระตุ้นตัวเองไปด้วย)
31. ยืมแรงบันดาลใจจากบุคคลอื่น (ลองถามดูจะพบว่ามีคนอยากทำงานที่เราทำอยู่มากมาย เมื่อเราเองได้ทำแล้วทำไมจะทำให้ดีไม่ได้)
32. หาแหล่งที่เราสูญเสียพลังงาน งานทุกอย่างควรทำได้อย่าง มีความสนุก (เราเหนื่อยหน่ายเพราะการรอ การเตรียมตัวไม่ดีพอ การทะเลาะกับคนอื่น การปกปิดความล้มเหลวของตน)
33. อย่าให้ต้องเข็นตัวเองมากนัก (เรื่องบางเรื่องมันเล็กน้อยมากที่จะไปอารมณ์เสียกับมัน)
34. ทำให้เห็นความแตกต่างระหว่าง"อยากจะทำ" กับคำว่า "ลงมือทำ" (อยากทำหลายเรื่อง...เริ่มบ้างหรือยัง)
35. ทำตัวเองให้รู้สึกว่ามีความสามารถเพิ่มขึ้น (อย่าดูถูกตัวเอง ชมตัวเองบ้าง)
36. แยกคำว่า"ไม่สามารถ" กับ "ไม่อยากทำ"ออกจากกัน (งานหลายอย่างท่านทำได้ แต่ไม่อยากทำมากกว่า)
37. คอยสังเกตุว่าคนอื่นแก้ปัญหากันอย่างไร (ปัญหาไม่แตกต่างกัน...เราก็ไม่แตกต่างกัน)
38. เพิ่มความปราถนาในการทำงานให้สูงขึ้นเรื่อยๆ (พูดคำว่า "YES, I CAN."(ใช่ข้าฯทำได้) วันนี้จึงต้องดีกว่า วันวาน)
39. หาทางกระตุ้นตัวเองให้ทำงานหลายๆวิธี (อย่าคุยกับบุคคลที่ทำให้เราท้อแท้)
40. เปลี่ยน"ความอยากจะทำ" เป็น "การกระทำ" (ผลงานจะเกิดจากการกระทำเท่านั้น)
41. พัฒนาตนเองให้เป็นนักวางแผนการทำงาน (ความคุ้นเคยกับการวางแผนจะเป็นประโยชน์มาก)
42. ถามตัวเองว่าทำไมจึงผลัดวันประกันพรุ่ง (ขณะนี้เราควรทำอะไรเสร็จแล้ว แต่เราเลื่อนออกไป.. ทำไมเราเลื่อนออกไป อะไรที่เราทำไม่สำเร็จ... เมื่อไหร่เราจะทำงานชิ้นนั้น ทำไมไม่ทำตอนนี้... ทำไมจึงคิดว่าเวลาอื่นดีกว่า...)
6. ตั้งใจให้แน่วแน่ที่จะทำให้สำเร็จ อย่าห่วงเกินไปว่าจะไม่ สำเร็จ (การกังวลทำให้เหนื่อยใจ เป็นทุกข์มากกว่าการทำงาน เสียอีก)
7. วิเคราะห์เหตุผลในการที่ไม่ค่อยสู้จะเต็มใจทำงาน (ถ้าไม่อยากทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมาย ถามตัวเองว่า คิดจะหลีกเลี่ยงอะไร หลีกพ้นใหม)
8. จดปัญหาลงในกระดาษแล้วแก้ปัญหาในกระดาษนั้น (อย่าเพียงคิดไว้ในใจ มีปัญหาอะไรระบุออกมา)
9. ใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ของผู้อื่น (สอบถาม แลกเปลี่ยน เรียนรู้จากประสบการณ์ที่คนอื่น ทำสำเร็จมาแล้ว)
10. ใช้พลังงานของเราลงไปในการทำงานให้หมด (ทำงานให้เหมือนกับว่าจะไม่ได้ทำงานอีกแล้ว คงเหลือ อะไรไว้ให้คนอื่นนึกถึงเราได้บ้าง)
11. อย่ารอให้มีแรงบรรดาลใจเกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยทำงาน (ข้อนี้ดีเหลือเกิน...เอ้าแล้วจะรออะไรอีกเล่า)
12. พัฒนาระบบเตือนความจำของตนเอง (เช่นมีเป้าหมาย รายการนัดหมาย...นาฬิกาที่ปลุกได้)
13. กำหนดให้ชัดเจนว่าเมื่อไหร่จะทำงาน (เขียนว่า"พรุ่งนี้จะทำงานนั้นเสียที"ไม่ได้ ต้องเขียนว่า... "พรุ่งนี้ 09.00 น. จะเริ่มทำงานที่ค้างไว้นั้นทันที")
14. จดบันทึกให้เป็นนิสัย (ระหว่างการบันทึกจะทำให้เรานึกอะไรได้อีกมาก)
15. จะกระทำสิ่งใดต้องพิจารณาว่าคุ้มค่าเวลาหรือไม่ (เวลามีเท่ากันทุกคน แต่บางคนทำอะไรได้น้อยมากแถม ยังบ่นว่าไม่มีเวลาเสียอีก)
16. บังคับตัวเองให้เริ่มต้น จะเกิดความเชื่อมั่นเมื่อได้เริ่มไป แล้ว(หลายคนรอฤกษ์จนป่านนี้ยังไม่ได้ทำอะไร .. เวลานี้ ฤกษ์ดีที่สุดแล้วเริ่มได้เลย)
17. เอาชนะการลืมด้วยเจตนาให้ได้ (เรามักจะลืมสิ่งที่เราไม่อยากทำ)
18. ให้สัญญาว่าจะให้รางวัลแก่ตัวเองเมื่อทำงานสำเร็จ (ให้รางวัลแก่ตัวเองในทางดี หรือด้วยสิ่งทีดีๆ)
19. ทำงานเพิ่มขึ้นทันทีเมื่อได้รับข่าวดี (เมื่องานที่ทำที่ผ่านมาส่งผลให้เห็น ก็เริ่มงานใหม่ทันที)
20. เริ่มต้นวันใหม่ด้วยความรู้สึกที่ดีและกระตือรือร้น (วันนี้เป็นวันแห่งความหวังใหม่ของทุกคน)
21. หลีกเลี่ยงการถูกชี้นำไปในทางลบ (คนที่พูดแล้วไม่ส่งเสริมกำลังใจให้เราทำงานนั้นไม่ใช่ มิตรแท้)
22. เพิ่มราคาความล้มเหลวด้วยการทำบางสิ่งบางอย่าง (ทำงานนั้นครั้งแรกไม่สำเร็จ ถ้าเลิกไปเลยก็แปลว่าเรา เหนื่อยฟรี)
23. ฝึกให้ตนเองมีทัศนคติในทางสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นทุกวัน (คิด มอง ทำ พูด ในสิ่งที่สร้างสรรค์ แล้วตัวเองจะมีค่า มากยิ่งขึ้น)
24. อย่าสับสนระหว่างคำว่า"ยาก"กับคำว่า"เป็นไปไม่ได้" (งานยากไม่มีเราไม่รู้จักทำให้มันง่ายต่างหาก)
25. เตือนตัวเองว่าการรอคอยน่ากลัวการเริ่มต้นทำงาน (ลองลงมือทำแล้วจะโล่งใจเพระเราทำได้จริงๆ)
26. พิถีพิถันกับตัวเองขึ้นอีกนิด จะทำให้ชีวิตสดใสขึ้น (การแต่งกาย เครื่องประดับ ฯลฯ)
27. แสดงให้เหมือนกับว่า เป็นไปไม่ได้ที่เราจะล้มเหลว (อย่าเผื่อใจว่าจะไม่สำเร็จ...)
28. เปลี่ยนที่วางสิ่งของในที่ทำงาน ห้องทำงาน ห้องนอนบ้าง (จะเกิดบรรยากาศใหม่ๆน่าอยู่ น่าทำงานมากขึ้นได้บ้าง)
29. ไม่มีปัญหาไม่มีความก้าวหน้า (NO PROBLEM, NO PROGRESS) (ปัญหาไม่ใช่สิ่งเลวร้าย ปัญหาคือตัวบ่งชี้ว่าจุดใดบ้างที่เรา สามารถพัฒนาได้)
30. กระตุ้นส่งเสริมกำลังใจแก่บุคคลอื่นในการทำงานบ่อยๆ (จะเป็นการสอนตัวเองและกระตุ้นตัวเองไปด้วย)
31. ยืมแรงบันดาลใจจากบุคคลอื่น (ลองถามดูจะพบว่ามีคนอยากทำงานที่เราทำอยู่มากมาย เมื่อเราเองได้ทำแล้วทำไมจะทำให้ดีไม่ได้)
32. หาแหล่งที่เราสูญเสียพลังงาน งานทุกอย่างควรทำได้อย่าง มีความสนุก (เราเหนื่อยหน่ายเพราะการรอ การเตรียมตัวไม่ดีพอ การทะเลาะกับคนอื่น การปกปิดความล้มเหลวของตน)
33. อย่าให้ต้องเข็นตัวเองมากนัก (เรื่องบางเรื่องมันเล็กน้อยมากที่จะไปอารมณ์เสียกับมัน)
34. ทำให้เห็นความแตกต่างระหว่าง"อยากจะทำ" กับคำว่า "ลงมือทำ" (อยากทำหลายเรื่อง...เริ่มบ้างหรือยัง)
35. ทำตัวเองให้รู้สึกว่ามีความสามารถเพิ่มขึ้น (อย่าดูถูกตัวเอง ชมตัวเองบ้าง)
36. แยกคำว่า"ไม่สามารถ" กับ "ไม่อยากทำ"ออกจากกัน (งานหลายอย่างท่านทำได้ แต่ไม่อยากทำมากกว่า)
37. คอยสังเกตุว่าคนอื่นแก้ปัญหากันอย่างไร (ปัญหาไม่แตกต่างกัน...เราก็ไม่แตกต่างกัน)
38. เพิ่มความปราถนาในการทำงานให้สูงขึ้นเรื่อยๆ (พูดคำว่า "YES, I CAN."(ใช่ข้าฯทำได้) วันนี้จึงต้องดีกว่า วันวาน)
39. หาทางกระตุ้นตัวเองให้ทำงานหลายๆวิธี (อย่าคุยกับบุคคลที่ทำให้เราท้อแท้)
40. เปลี่ยน"ความอยากจะทำ" เป็น "การกระทำ" (ผลงานจะเกิดจากการกระทำเท่านั้น)
41. พัฒนาตนเองให้เป็นนักวางแผนการทำงาน (ความคุ้นเคยกับการวางแผนจะเป็นประโยชน์มาก)
42. ถามตัวเองว่าทำไมจึงผลัดวันประกันพรุ่ง (ขณะนี้เราควรทำอะไรเสร็จแล้ว แต่เราเลื่อนออกไป.. ทำไมเราเลื่อนออกไป อะไรที่เราทำไม่สำเร็จ... เมื่อไหร่เราจะทำงานชิ้นนั้น ทำไมไม่ทำตอนนี้... ทำไมจึงคิดว่าเวลาอื่นดีกว่า...)