ซึ่งราศีเกิด แต่ละคนสามารถพิจารณาจากวันเดือนเกิดของตัวเองได้ ดังนี้
แบบที่ 1 เริ่มนับจากกลางเดือน
เป็นราศีที่เป็นหมู่ดาวบนฟ้า
ผู้ที่เกิดราศีเมษ ระหว่างวันที่ 13 เม.ย–13 พ.ค ราศีแกิดเป็น ธาตุไฟ (หรือผู้มีลัคนาอยู่ราศีเมษ)
ผู้ที่เกิดราศีพฤษภ ระหว่างวันที่ 14 พ.ค–14 มิ.ย ราศีเกิดเป็น ธาตุดิน (หรือผู้มีลัคนาอยู่ราศีพฤษภ)
ผู้ที่เกิดราศีเมถุน ระหว่างวันที่ 15 มิ.ย–15 ก.ค ราศีเกิดเป็น ธาตุลม (หรือผู้มีลัคนาอยู่ราศีเมถุน)
ผู้ที่เกิดราศีกรกฏ ระหว่างวันที่ 16 ก.ค–16 ส.ค ราศีเกิดเป็น ธาตุน้ำ (หรือผู้มีลัคนาอยู่ราศีกรกฏ)
ผู้ที่เกิดราศีสิงห์ ระหว่างวันที่ 17 ส.ค–16 ก.ย ราศีเกิดเป็น ธาตุไฟ (หรือผู้มีลัคนาอยู่ราศีสิงห์)
ผู้ที่เกิดราศีกันย์ ระหว่างวันที่ 17 ก.ย–16 ต.ค ราศีเกิดเป็น ธาตุดิน (หรือผู้มีลัคนาอยู่ราศีกันย์)
ผู้ที่เกิดราศีตุลย์ ระหว่างวันที่ 17 ต.ค–15 พ.ย ราศีเกิดเป็น ธาตุลม (หรือผู้มีลัคนาอยู่ราศีตุลย์)
ผู้ที่เกิดราศีพิจิก ระหว่างวันที่ 16 พ.ย–15 ธ.ค ราศีเกิดเป็น ธาตุน้ำ (หรือผู้มีลัคนาอยู่ราศีพิจิก)
ผู้ที่เกิดราศีธนู ระหว่างวันที่ 16 ธ.ค–13 ม.ค ราศีเกิดเป็น ธาตุไฟ (หรือผู้มีลัคนาอยู่ราศีธนู)
ผู้ที่เกิดราศีมังกร ระหว่างวันที่ 14 ม.ค–12 ก.พ ราศีเกิดเป็น ธาตุดิน (หรือผู้มีลัคนาอยู่ราศีมังกร)
ผู้ที่เกิดราศีกุมภ์ ระหว่างวันที่ 13 ก.พ–13 มี.ค ราศีเกิดเป็น ธาตุลม (หรือผู้มีลัคนาอยู่ราศีกุมภ์)
ผู้ที่เกิดราศีมีน ระหว่างวันที่ 14 มี.ค–12 เม.ย ราศีเกิดเป็น ธาตุน้ำ (หรือผู้มีลัคนาอยู่ราศีมีน)
เป็นแบบฝรั่งทางตะวันตกใช้แบ่งราศี
ราศีเมษ อยู่ระหว่าง วันที่ 21 มี.ค. – 20 เม.ย. ธาตุไฟ
ราศีพฤษภ อยู่ระหว่าง วันที่ 21 เม.ย. – 21 พ.ค. ธาตุดิน
ราศีเมถุน อยู่ระหว่าง วันที่ 22 พ.ค. – 21 มิ.ย. ธาตุลม
ราศีกรกฏ อยู่ระหว่าง วันที่ 22 มิ.ย. – 23 ก.ค. ธาตุน้ำ
ราศีสิงห์ อยู่ระหว่าง วันที่ 24 ก.ค. – 23 ส.ค. ธาตุไฟ
ราศีกันย์ อยู่ระหว่าง วันที่ 24 ส.ค. – 23 ก.ย. ธาตุดิน
ราศีตุลย์ อยู่ระหว่าง วันที่ 24 ก.ย. – 23 ต.ค. ธาตุลม
ราศีพิจิก อยู่ระหว่าง วันที่ 24 ต.ค. – 22 พ.ย. ธาตุน้ำ
ราศีธนู อยู่ระหว่าง วันที่ 23 พ.ย. – 22 ธ.ค. ธาตุไฟ
ราศีมังกร อยู่ระหว่าง วันที่ 23 ธ.ค. – 20 ม.ค. ธาตุดิน
ราศีกุมภ์ อยู่ระหว่าง วันที่ 21 ม.ค. – 19 ก.พ. ธาตุลม
ราศีมีน อยู่ระหว่าง วันที่ 20 ก.พ. – 20 มี.ค. ธาตุน้ำ
**บางคนเคยยึดว่าตัวเองราศีใด ให้ยึดตามราศีนั้น แล้วอ่านคำทำนาย
การกินอาหาร กับ ธาตุต่างๆ
ธาตุดิน
ธาตุดินมักชอบดื่มน้ำผักและผลไม้ที่มีรสฝาด รสหวานรสมันและ รสเค็ม
– รสฝาด เช่น น้ำฝรั่ง น้ำมะตูม น้ำกระท้อน น้ำมะกอก น้ำมะขาม น้ำลูกหว้า
– รสหวาน เช่น น้ำแตงโม น้ำมะละกอ น้ำกล้วยหอม น้ำขนุน น้ำเงาะ น้ำน้อยหน่า น้ำละมุดฝรั่ง น้ำลำใย น้ำอ้อย
– รสมัน เช่น น้ำกระจับ น้ำข้าวโพด น้ำฟักทอง น้ำแห้ว
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
ธาตุน้ำ
ธาตุน้ำมักจะชอบดื่มน้ำผักและผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว รสขม
– รสเปรี้ยว เช่น น้ำมะขาม น้ำมะนาว น้ำกระเจี๊ยบแดง น้ำมะยม น้ำส้มโอ น้ำมังคุด น้ำมะเขือเทศ น้ำสับปะรด น้ำส้มเขียวหวาน น้ำลังสาด น้ำลิ้นจี่ น้ำเชอรี่ น้ำองุ่น น้ำชมพู่ น้ำทับทิม น้ำพุทรา น้ำสตอเบอรี่ น้ำมะขวิด น้ำมะปราง น้ำมะเฟือง น้ำมะไฟ น้ำมะม่วง
– รสขม เช่น น้ำมะระขี้นก น้ำเห็ดหลินจือ น้าใบบัวบก
ธาตุลม
ธาตุลมมักจะชอบดื่มน้ำผักผลไม้ที่มีรสเผ็ดร้อน
– รสเผ็ดร้อน เช่น น้ำกระเพราแดง น้ำขิง น้ำตะไคร้
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
ธาตุไฟ
ธาตุไฟมักชอบดื่มน้ำผักและผลไม้ที่มีรสหอมเย็น (สุขุม) รสจืด
– รสหอมเย็น (สุขุม) เช่น น้ำลูกเดือย น้ำเม็ดแมงลัก น้ำอาร์ซี น้ำแตงไทย น้ำมะพร้าว น้ำรากบัว น้ำลูกจาก น้ำลูกตาลอ่อน
– รสจืด เช่นน้ำผักคะถ้าน้ำผักตำลึงน้ำแตงกวา น้ำคึ่นช่าย น้ำดอกคำฝอย น้ำว่านหางจระเข้ น้ำกระหล่ำปลี น้ำผักกวางตุ้ง
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
สรุป
ไม่ว่าจะเกิดราศีใดก็ตามไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำสมุนไพรเฉพาะธาตุ ราศีเกิดของตัวเองเท่านั้น แต่ควรดื่มน้ำสมุนไพรรสชาติอื่น ๆ ด้วย เพราะถ้า หากเราดื่มน้ำสมุนไพรตามธาตุหนึ่งธาตุใดน้อยหรือมากเกินไป จะทำให้ ร่างกายเกิดการเจ็บป่วยได้เช่นกัน ดังนั้นควรดื่มน้ำสมุนไพรครบทั้ง 4 ธาตุ เพื่อช่วยให้ร่างกายได้สารอาหารหลาย ๆ ชนิด