ตาเขม่น ตากระตุก ขวาร้าย-ซ้ายดี ความเชื่อโบราณที่เล่าต่อกันมา

ตาเขม่น ตากระตุก ขวาร้าย-ซ้ายดี ความเชื่อโบราณ

ตากระตุก … มันไม่เพียงแต่จะเป็นความเชื่อ!!! และนี่ก็เป็นอีกความเชื่อหนึ่งค่ะ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ที่เล่าต่อกันมาตั้งแต่โบราณ ลองอ่าน เรื่องตากระตุก หรือที่เราเรียกว่า ตาเขม่น


ตาเขม่น ตากระตุก ขวาร้าย-ซ้ายดี จริงไหม?
ตาเขม่นในตอนเช้า
นับจากตื่นนอนใกล้รุ่ง

– ถ้าเขม่นในตาขวา….. จักมีญาติมิตรต่างแดนมาหา
– ถ้าเขม่นในตาซ้าย….. จักมีปากเสียงทะเลาะวิวาท หรือมีเรื่องเดือดร้อนมาสู่

ตาเขม่นในตอนสาย
นับจากเวลา 9.00 – 12.00 หรือเที่ยงวัน

– ถ้าเขม่นนัยน์ตาขวา….. ญาติมิตรต่างแดนหรือต่างจังหวัดจะนำลาภมาให้
– ถ้าเขม่นนัยต์ตาซ้าย…..จะเกิดเรื่องไม่ดีงามภายในครอบครัว

ตาเขม่น ในตอนบ่าย
พ้นจากเที่ยงวัน – 16.00 น.

– ถ้าเขม่นนัยน์ตาขวา….. การที่คิดไว้หรือกำลังทำอยู่จะประสบผลสำเร็จ
– ถ้าเขม่นนัยน์ตาซ้าย…..จะมีเพศตรงข้ามกล่าวขวัญถึงหรืออาจมาหา

ตาเขม่น ในตอนเย็น
ตั้งแต่ 17.00 – 19.00 น.

– ถ้าเขม่นนัยน์ตาซ้าย… จะมีญาติหรือเพื่อนสนิทที่อยู่ห่างไกลมาเยี่ยม
– ถ้าเขม่นนัย์น์ตาขวา… จักได้พบญาติหรือมิตรสหายที่จากกันไปนานโดยไม่นึกไม่ฝัน (และไม่ต้องการหรือเปล่า?)

เขม่นในตอนกลางคืน  19.00 เป็นต้นไป
– ถ้าเขม่นนัยน์ตาซ้าย….. จักมีข่าวดีมาถึงในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น หรือจักได้ลาภจากผลงานที่ทำไว้
– ถ้าเขม่นนัยน์ตาขวา….. จักมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับคนในครอบครัว

อีกคำทำนาย เกี่ยวกับ เรื่องตากระตุก
หากเขม่นตาในช่วงเช้า – บ่าย
คนโบราณกล่าวไว้ว่า

– หากเป็นข้างขวา จะมีโชค ลาภ ได้รับข่าวดี เรียกว่า จะสมหวังในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่คอย
– หากเขม่นที่ตาซ้าย ท่านว่าจะมีเคราะห์ โชคร้ายผิดหวังเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างแน่นอน เช่น มีการทะเลาะกัน เกิดขึ้น หรือจะต้องสูญเสียของรักบางอย่างไป
– ถ้าเขม่นตาไม่ว่าจะเป็นข้างซ้ายหรือข้างขวาในช่วงเวลาเย็น ถือว่ามีโชคมีลาภ จะได้พบญาติสนิทมิตรรักเดินทางมาหา

ถ้าเป็นในช่วงกลางคืน
– การเขม่นตาขวา จะได้ดี จะมีเคราะห์มีเหตุร้ายเกิดขึ้น
– ถ้าหากเขม่นตาซ้าย จะมีโชคลาภจากเพื่อน จะสมหวังสิ่งที่รอคอย เรียกว่า ขวาร้าย-ซ้ายดี
การเขม่นตานี้เชื่อกันว่า เป็นลางบอกเหตุที่แม่นยำมาก ท่านให้ถือเวลาที่จะเกิดเหตุไม่ดีและร้ายภายใน 3 วันอย่างแน่นอน

แพทย์บอกเล่า..
หลาย ๆ คนคงเคยตากระตุก  แต่สิ่งแรกที่จะนึกถึงก็คือ  “ขวาร้าย ซ้ายดี”  มันเป็นคำเชื่อตังแต่โบราณมาแล้ว   แต่แท้ที่จริงแล้วเมื่อไปพบแพทย์  แพทย์ได้บอกให้ฟังว่าอาการตากระตุก แบ่ง ได้เป็น 2 กรณี คือ เปลือกตากระตุก และลูกตากระตุก

เปลือกตากระตุก อาจเกิดจากนิสัยความเคยชินในวัยเด็ก
เด็กบางคนสามารถกระตุกเปลือกตาและใบหน้าเป็นครั้งคราวได้ และสามารถหยุดได้ทันทีเมื่อต้องการหยุด อาการจะหายไปได้เมื่อโตขึ้น นอกจากนั้นอาจเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ มักพบในคนสูงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป เกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย จะมีอาการเปลือกตา ค่อยๆ บีบตัวเกร็งทีละน้อยจนกลายเป็นหลับตาแน่นมากทั้งสองตา เกิดเป็นครั้งคราว  ขณะหลับจะไม่มีอาการ  หากทิ้งไว้นาน ความรุนแรงและความถี่จะมากขึ้นจน กลายเป็นตาปิดตลอด ทำให้สูญเสียการมองเห็นได้

กล้ามเนื้อตา..
เปลือกตากระตุกอีกชนิด เกิดจากกล้ามเนื้อตาและกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้ากระตุก มักเกิดจากเส้นเลือดในสมองโป่งพอง หรือมีเนื้องอกกดเส้นประสาทที่มาเลี้ยงเปลือกตา จะมีอาการบีบเกร็งของกล้ามเนื้อเปลือกตาและกล้ามเนื้อใบหน้าครึ่งซีกอาการเกร็ง จะคงอยู่แม้ขณะหลับจะมีอันตรายต้องได้รับการผ่าตัด

อาการ..
ตากระตุก เป็นอาการกระตุกของลูกตาเป็นจังหวะด้วยทิศทางและความแรงแตกต่างกันออก ไปเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น เกิดขึ้นภายใน 2-3 เดือนแรกหลังคลอดหากลูกตากระตุกเท่าๆ กันในตาทั้งสองข้างอาจร่วมกับการมีศีรษะสั่นด้วย ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น นอกจากนี้ยังพบได้จากการล้าของกล้ามเนื้อตาทำให้ตากระตุก กลุ่มนี้ไม่มีปัญหา อะไรหายเองได้ แต่หากอาการตากระตุกเป็นอยู่นานๆ ควรต้องไปพบแพทย์ เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุของโรคจะได้แก้ไขอย่างถูกต้องต่อไป

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะสบายใจได้แล้ว่า ต่อไปนี้ เมื่อตากระตุก  ไม่ใช่แค่ว่า  “ขวาร้าย ซ้ายดี” เท่านั้น  แต่บางทีอาจจะเป็นอะไรกับตาเราก็ได้

ความเชื่อเกี่ยวกับ นิ้วกลาง – อธิบายตามวิชาการ หัตถศาสตร์ของไทย