เฉดสีต่างๆ ภาษาอังกฤษ แจกโค๊ดค่าสี - Color Code

แจกโค๊ดค่าสี - Color Code เฉดสีต่างๆ ภาษาอังกฤษ วันนี้แจกสีชมพูก่อนค่ะ Pink ส่วนสีอื่นๆ เดี๋ยวทยอยทำให้นะคะ



เฉดสีชมพู Pink 

สี Pink #f699cd
สี Rose #fc94af
สี fuscia #fc46aa
สี punch #f52782
สี blush #fec5e5
สี watermelon #fe7f9c
สี flamingo #fda4ba
สี rouge #f26b8a
สี salmon #fdab9f
สี coral #fe7d68
สี peach #fc9483
สี strawberry #fc4c4e
สี rosewoood #a04242

สี lemonade #fbbbcb
สี taffy #fa86c5
สี bubblegum
สี ballet slipper #f69abf
สี crepe #f2b8c6
สี magenta #e11584
สี Hot Pink #ff1694
สี Pear Pink #c33e38
สี Telegagenta #e40070 
สี Heather Violet #f32084

สี Claret Viole #6e0730
สี Pearl Violet #8d6da2
สี Blue Lilac #753d75
สี Pearl Ruby Red #
สี Pearl Pink #c33e38
สี Red Violet #a00f37
สี Red Lilac #76375a
สี Purple Violet #520f2a
สี Traffic Purple #b0096f
สี Pastel Violet #a88293

สี Signal Violet ##9f407c
สี Antique Pink #e36269
สี Light Pink #fb7d95
สี Beige Red #cb8466
สี Wine Red #671625
สี Brown Red #840807
สี Oxide Red #6d1a1e
สี Purple Red #810012
สี Ruby Red #ab0000
สี Carmine Red #b20000
สี Black Red #461e25

ห้องน้ำ คำศัพท์ภาษาอังกฤษในห้องน้ำ

ห้องน้ำ พูดเป็นภาษาอังกฤษ นอกเหนือจากคำว่า Toliet แล้วมีคำอะไรอีกบ้าง

- Restroom ห้องสุขา
- Bathroom ห้องน้ำ ชาวอเมริกันมักใช้
- Ladies’ room / Powder room สุขาหญิง
- Men’s room สุขาชาย

คำศัพท์ที่เกี่ยวกับห้องน้ำ ในห้องน้ำ ภาษาอังกฤษ

Floor mat (ฟลอร์ แม็ท) พรมเช็ดเท้า
Floor Tile (ฟลอร์ ไทล) กระเบื้องปูพื้น
Shower curtain (ชาว-เวอร เคอร์ท-เอ็น) ผ้าม่าน
Scale (ซเคล) เครื่องชั่งน้ำหนัก
Sponge (สพันจ์) ฟองน้ำ

Bathrobe (บาธ-โร้บ) เสื้อคลุมอาบน้ำ
Tank (แท็งค) ถังใส่น้ำ-น้ำมัน
Shower (เฌา เออะ) การอาบน้ำฝักบัว /สถานที่หรืออุปกรณ์สำหรับอาบน้ำแบบฝักบัว

Bathroom (บัธรุม) ห้องอาบน้ำ
Bath (บัธ) อาบ,อาบน้ำ,ที่อาบน้ำ
Bathtub (บาธ ทูบ) อ่างอาบน้ำ
Take a bath (เทคอะ บัธ) อาบน้ำ

Soap (โซพ) สบู่
Soap dish (โซพ-ดิช) แท่นวางสบู่
Liquid soap (ลิค ควิด โซพ) สบู่เหลว
Toothpaste (ทูธเพซท) ยาสีฟัน
Toothbrush (ทูธบรัช) แปรงสีฟัน
Dental floss (เดน’เทิล ฟลอส) ไหมขัดฟัน

Bowl (โบล) ขัน,ขามกลม,กระปุก,ชาม
Bath towel (บัธ เทา เอิล) ผ้าเช็ดตัว
Hairbrush (แฮร์บรัช) หวีแปรงผม
Shower stall (ชาว-เวอร ส-ตอล) ตู้อาบน้ำ
Washcloth (วอช คลอธ) ผ้าสำหรับเช็ดหน้า

Bath mat (บาธ-แม็ท) แผ่นรองกันลื่นเวลาอาบน้ำ
Heater (ฮีท-เทอร์) เครื่องทำความร้อน
Shower bath (เฌา เออะ บัธ) ผักบัวอาบน้ำ
Powdered detergent (เพา เดอะ ดิเทอ เจ็นท) ผงซักฟอก

Drain (เดรน) ท่อระบายน้ำ
Foam (โฟม) โฟมล้างหน้า
Faucet (ฟอ ซีท) ก๊อกน้ำ
Hand towel (แฮนด์ เทา เอิล) ผ้าเช็ดมือ
Mirror (มี เรอะ) กระจก

Sink (ซิงค) อ่างล้างมือ
Washbasin (วอช เบซิน) อ่างล้างมือ
Shampoo (แชมพู) แชมพูสระผม
Towel rack (เทาเอิล แรค) ราวแขวนผ้าเช็ดตัว
Water heater (วอ เทอะ ฮีเทอะ) เครื่องทำน้ำอุ่น

Showerhead (เชา เออะ เฮด) ฝักบัว
Shower gel (เชา เออะ เจล) ครีมอาบน้ำ
Tissue paper (ทิช ชิว เพเพอะ) กระดาษทิชชู่
Tissue holder (ทิชชู โฮลเดอร์) ที่แขวนทิชชู่
Toilet paper (ทอย-เล็ต-เพ-เพอร์) กระดาษชำระ

Shaving cream (เชฟวิ่งครีม) ครีมโกนหนวด
Razor (เร-เซอร์) มีดโกนหนวด
Lotion (โลชั่น) ครีมทาผิว
Laundry basket ตระกร้าซักผ้า
Toilet seat (ทอยเล็ท-ซีท) ชักโครก

Back brush (แบ็ค-บรัช) แปรงถูหลัง
Cabinet (แค-บิ-เน็ท) ตู้เก็บของ
Nail brush (เนล-บรัช) แปรงขัดเล็บ
Trash bin (แทรช-บิน) ถังขยะ
Drain (เดรน) ท่อระบายน้ำ

ศัพท์ขายของออนไลน์ ปี 2563 คนขาย-คนซื้อให้รู้ เข้าใจตรงกัน

ใช้คำผิดคำถูก ระวังเสียหาย มาใช้ให้ถูกในการสั่งซื้อ ขายของออนไลน์

ศัพท์ขายของออนไลน์ ปี 2563

F = (เอฟ) = จองสินค้า แต่ยังไม่ซื้อ
CF = (ซีเอฟ) = ซื้อและพร้อมโอนเงิน
Cf1, cf2, cf3 … = ต่อคิวจองสินต้า คิวที่ 1 คิวที่ 2 ต่อไปเรื่อย ๆ (ลำดับสำรองคือถ้าคิวที่ 1 ยกเลิก คนที่ Cf คิวต่อไปก็จะได้ของแทน)
CC = (ซีซี) = ยกเลิกการจองสินค้า (ไม่ซื้อแล้ว)
CF NO CC =  (ซีเอฟ โน ซีซี) ถ้าตกลงซื้อแล้วห้ามยกเลิก

IB = อินบ็อกซ์ (ส่งข้อความส่วนตัวหาแม่ค้า) ส่วนใหญ่ใช้กับเฟซบุ๊ก
PM = Private Message คุยกับแม่ค้าเป็นการส่วนตัว
DM = Direct Message ส่งข้อความคุยกับแม่ค้าใช้ในอินสตาแกรม และทวิตเตอร์
. (เครื่องหมาย จุด) = ปักหมุด เพราะสนใจสินค้า รอรายละเอียดเพิ่มเติมจากแม่ค้า


คำย่อต่างๆ ที่มักเจอบ่อยๆ
ลค. = ลูกค้า
พต. = เพิ่มเติม
สต. = ส่วนตัว
ตย. = ตัวอย่าง
พน. = พรุ่งนี้

การส่งของ ส่งพัสดุ ส่งสินค้า
รส. =  ราคารวมส่ง
ลทบ. =  ลงทะเบียน
Reg หรือ RG = ย่อมาจาก Registered = การส่งสินค้าแบบลงทะเบียน เช่นกัน
Express : ส่งด่วน แบบ EMS , KERRY
หนักบวกเพิ่ม = สินค้าที่ลูกค้าสั่ง ถ้าจัดส่งแล้วมีน้ำหนักเกินจะคิดค่าส่งเพิ่ม
COD = Cash On Delivery เก็บเงินปลายทาง

เกี่ยวกับสินค้า
ชนช็อป = สินค้าที่คล้ายสินค้าแบรนด์เนมที่กำลังมีขายอยู่ในช็อป
งานป้าย = สินค้าใหม่ ที่ยังไม่ได้แกะป้าย
Cop Brand = คือสินค้าที่คล้ายกับสินค้าแบรนเนมด์

เทคนิคทำงานที่บ้านอย่างไร ให้ลื่นไหล งานไม่สะดุด

ปกติเมื่อทำงานที่สำนักงาน เราสามารถใช้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการทำงานได้อย่างเต็มที่ ไฟแทบไม่ตก ทั้งๆ ที่มีคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง ทีวีจอยักษ์ เครื่องเสียงสำหรับห้องสัมมนา เครื่องปรับอากาศ เมื่อใช้ไฟฟ้าพร้อมๆ กัน ไม่มีปัญหา นั่นเป็นเพราะเขามีการวางแผนเรื่องของการใช้พลังงานเอาไว้ตั้งแต่แรก 



สำหรับระบบไอทีในสำนักงาน ก็จะมีฝ่ายไอทีคอยดูแลให้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น แม้ภายนอกอาคารจะมีหม้อแปลงระเบิด ไฟตก ไฟดับ คอมพิวเตอร์ก็ไม่ดับไปด้วย เช่น หากพนักงานกำลังตัดต่อวีดีโอ หรือมีการประชุมคอนเฟอร์เรนซ์กับลูกค้าที่อยู่คนละประเทศด้วยแล้ว หากไม่มีระบบบริหารจัดการพลังงานที่ดี ย่อมเกิดความเสียหายทางธุรกิจ และรวมไปถึงความน่าเชื่อถือในการบริหารจัดการที่ดี

เมื่อเราจำเป็นต้องทำงานอยู่ที่บ้าน เราจะทำอย่างไรให้บ้านของเรามีความพร้อมเหมือนที่ทำงาน เราจึงต้องเรียนรู้เรื่องของการบริหารจัดการพลังงานให้เพียงพอ โดยเริ่มจากการรู้จักมิเตอร์ไฟฟ้าที่บ้านว่าจ่ายพลังงานให้เราได้มากแค่ไหน

โดยปกติมิเตอร์ไฟฟ้าสำหรับสำนักงานและที่บ้านขนาดจะไม่เท่ากัน เพราะสิ่งนี้เป็นตัวแปรที่จะบอกว่าบ้านของคุณรองรับเครื่องใช้ไฟฟ้าได้มากน้อยแค่ไหน และทำไมเราถึงจำเป็นในการมีอุปกรณ์สำรองไฟ หรือ UPS

หากย้อนไปในสมัยก่อนหน้านี้สัก 20 - 30 ปีก่อน หลายครัวเรือนจะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นและมีขายในท้องตลาดได้แก่ พัดลม ทีวี ตู้เย็น หม้อหุงข้าว เตารีด หรือบางบ้านอาจจะมี ไดร์เป่าผม ทั้งหมดเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าหลักที่ทุกบ้านจำเป็นต้องมี หลายครัวเรือนในสมัยนั้นใช้มิเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งจากการไฟฟ้าเพียง 5 (15) หรือ พูดง่ายๆ คือสามารถจ่ายกระแสไฟได้ 5 แอมป์ (Ampere หรือ A ) สามารถใช้กระแสไฟได้สูงสุด 15 แอมป์ ซึ่งก็เพียงพอแก่การใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าดังกล่าว ไม่มีปัญหาไฟกระพริบ ไฟตก แต่ปัจจุบันเรามีเครื่องใช้ไฟฟ้ายุคใหม่จำนวนมากในบ้านเรือนที่ขายไม่ได้ อาทิ เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น ตู้เย็น พัดลม เครื่องซักผ้า ไดร์เป่าผม ชุดเครื่องเสียง โฮมเทียร์เตอร์ สมาร์ททีวี และคอมพิวเตอร์

เพื่อให้เห็นภาพหากคำนวณจำนวนวัตต์ที่ใช้แบบคาดการณ์ ตั้งแต่พัดลมตั้งพื้น ใช้ไฟประมาณ 75 วัตต์ ไดร์เป่าผม  1,000 วัตต์ เตารีดไฟฟ้า 1000 วัตต์ ตู้เย็นประมาณ 200 วัตต์ หม้อหุงข้าวประมาณ 500 วัตต์ ทีวีไม่เกิน 100 วัตต์ รวมแล้วประมาณ 2,875 วัตต์ แล้วนำมาหาร 220 โวลต์ จะได้ค่าประมาณของกระแสไฟฟ้าที่เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นต้องการสูงสุด เท่ากับ 13 แอมป์ ซึ่งไม่เกิน 15 แอมป์ ที่มิเตอร์ไฟฟ้าสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้พร้อมๆ กัน แต่ในครัวเรือนส่วนใหญ่จะใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่พร้อมกันเท่าไรนัก เพราะที่จะใช้บ่อยที่สุดก็แค่พัดลม ทีวี ตู้เย็น ที่เหลือใช้เพียงชั่วครู่ รวมๆ แล้ว ก็จะใช้ไฟฟ้าเพียง 800 วัตต์ ซึ่งใช้กระแสไฟฟ้าเพียง 3.6 แอมป์ และถ้ารวมคอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้ทำงานตลอดทั้งวันเข้ามาล่ะ

คอมพิวเตอร์ที่ใช้ทำงาน 1 ชุด กินไฟประมาณ 300-500 วัตต์ แล้วแต่ยี่ห้อ และประเภทการใช้งานด้วย หากคอมพิวเตอร์สเปคแรงๆ ด้วยแล้วย่อมใช้พลังงานสูง ดังนั้นการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเต็มที่ในบ้านของสมาชิกในบ้านในเวลาเดียวกัน ย่อมทำให้การทำงานสะดุดลง หากมิเตอร์ที่บ้าน หรือคอนโดไม่ได้รองรับการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมากพร้อมๆ กัน จึงมีความจำเป็นต้องจำกัดการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดในบ้านที่ใช้พลังวัตต์สูงๆ ด้วย

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภาพนอกที่ควบคุมไม่ได้ เช่น ฤดูร้อนเป็นฤดูที่หลายครัวเรือนใช้พลังงานสูงโดยเฉพาะการเปิดเครื่องปรับอากาศ ซึ่งในแต่ละปี ในช่วงเดือนเมษายนตอนกลางคืนจะเป็นจุดพีคในการใช้ไฟฟ้า หากต้องย้ายจากการทำงานที่สำนักงาน เป็นอยู่กับบ้านในตอนกลางวันการใช้พลังงานย่อมสูงขึ้นประมาณ 2 เท่า ซึ่งอาจทำให้เกิดไฟตกได้ในบางพื้นที่ เมื่อหลายครัวเรือนใช้ไฟฟ้าพร้อมๆ กันคราวละมากๆ

ดังนั้นการทำงานที่บ้านสิ่งหนึ่งที่ต้องเตรียมแน่ๆ คือ UPS หรืออุปกรณ์สำรองไฟ เพราะอย่างน้อยช่วยให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ปลอดภัย เมื่อเกิดปัญหาไฟตก หรือไฟกระชาก และที่สำคัญ การทำงานที่บ้านก็จะเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าเครื่องมือยุค 4.0 ที่สำคัญในการทำงานอยู่ที่บ้านคือโซลูชั่นคลาวด์ หรือการทำงานบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการส่งงาน ประชุมกับหัวหน้า พาร์ทเนอร์ เพื่อนร่วมงาน หรือกับลูกค้า เช่น การตอบโต้ทางแชต หรือการส่งงานทางอีเมล์ ถ้าไฟล์ใหญ่หน่อยก็ต้องอัพโหลดขึ้นหน่วยความจำบนคลาวด์ เช่น Google Drive บางองค์กรอาจใช้ Box หรือไม่ก็ Dropbox การประชุมวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เป็นต้น เครื่องมือเหล่านี้ จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ยิ่งถ้าเป็นประชุมสำคัญ แล้วไฟตก ทำให้พลาดการประชุมเรื่องราวสำคัญไป ดังนั้นควรติดตั้ง UPS ตามอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยในการทำงาน   

สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงคือ Wifi-Router เพราะเป็นหัวใจของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นในบ้านหรือคอนโด อพาร์ทเม้นต์ก็ตาม หากไฟตก ไฟดับ Wifi-Router จะไม่ทำงาน ทำให้เราต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้นั่นเอง สำหรับเครื่องสำรองไฟเอพีซีโดยชไนเดอร์ อิเล็คทริค (APC by Schneider Electric) จะมีรุ่นที่ติดผนังได้เหมาะกับการสำรองไฟให้กับ Wifi-Router เช่น รุ่นตระกูลที่ขึ้นต้นด้วย BV ทั้งหลาย โดดเด่นเรื่องน้ำหนักที่เบามาก เช่น รุ่น BV800I-MS จ่ายไฟได้ 450 วัตต์ หรือถ้าจะใช้ร่วมกับสมาร์ททีวีด้วยก็ รุ่น BV1000I-MS จ่ายไฟได้สูงสุดที่ 600 วัตต์ พ่วงได้หลายอุปกรณ์

รองลงมาที่ต้องคำนึงถึงจะเป็นอะไรไม่ได้นั่นคือคอมพิวเตอร์ ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นแบบ PC All-in-One หรือเดสก์ทอปธรรมดา แนะนำแบบตั้งโต๊ะ เพราะจะมีเรื่องของซอฟต์แวร์บริหารจัดการ Power Chute Personal Edition และสามารถปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติ โดย AVR (Auto Voltage Regulation) ช่วยแก้ปัญหาไฟตก ไฟกระชากได้ ทำให้ไฟฟ้าที่เข้าเครื่องคอมพิวเตอร์เสถียรมากขึ้น ยืดอายุการใช้งานใช้นานขึ้น 

เช่น รุ่น BX800LI-MS จ่ายไฟ 415 วัตต์ นาที เหมาะสำหรับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 1 ชุด สำรองไฟฟ้าได้ 10 นาที BX1100LI-MS จ่ายไฟ 550 วัตต์ เหมาะสำหรับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 2 ชุด โดยสำรองไฟฟ้าได้ 5 นาที ซึ่งเหมาะมากสำหรับครอบครัวที่ต้องทำงานอยู่กับบ้าน แต่ถ้าที่บ้านใช้ Apple iMac และต้องทำงานที่ค่อนข้างใช้การประมวลผลกราฟฟิคสูงๆ แนะนำให้ใช้รุ่น BR900GI หน้าจอ LCD จ่ายไฟ 540 วัตต์ และยังช่วยช่วยประหยัดพลังงานมากว่า 30% มาพร้อมพลังจ่ายไฟ 540 วัตต์ หมดห่วงแม้การตัดต่อวิดีโอ การตัดต่อเสียง เพราะสามารถสำรองไฟฟ้าได้นานถึง 18-20 นาที 

ซึ่งสเปคของ UPS แต่ละรุ่นนั้น ต้องสัมพันธ์กับการใช้พลังงานกับคอมพิวเตอร์ที่ใช้งาน ซึ่งผู้ใช้ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับเสปคคอมพิวเตอร์แต่ละรุ่น เพื่อที่จะได้ใช้งานกับ UPS ได้อย่างราบรื่น เพียงเท่านี้ไม่ว่าจะไฟดับ ไฟตก ไฟกระชากตอนไหน มีประชุมคอนเฟอร์เรนซ์ครั้งสำคัญกับใคร หรือทำงานที่ต้องการความต่อเนื่องสูงก็มั่นใจได้ว่าจะผ่านพ้นไปด้วยดี

8 เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับ New Normal - รูปแบบการดำเนินชีวิตอย่างใหม่ ที่แตกต่างจากอดีต

8 เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับ New Normal ความปกติใหม่ ฐานวิถีชีวิตใหม่ หรือ รูปแบบการดำเนินชีวิตอย่างใหม่ ที่แตกต่างจากอดีต

มนุษย์จะก้าวเข้าสู่ New Normal หลังผ่านพ้นวิกฤติสถานการณ์ COVID-19

ราชบัณฑิตยสภาได้บัญญัติศัพท์ “New Normal” หมายถึง ความปกติใหม่, ฐานวิถีชีวิตใหม่ หมายถึง รูปแบบการดำเนินชีวิตอย่างใหม่ที่แตกต่างจากอดีต



1. วิวัฒนาการของบ้านและหน้าที่ (ทำงาน, เรียนหนังสือออนไลน์)
การผสานกันของบ้านและหน้าที่ (Evolving of Home and Duty) เนื่องจากการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 จะเห็นได้เลยว่าองกรค์หลายที่มีการปรับตัวให้พนักงานทำงานได้จากที่บ้านซึ่งเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ทำให้ผู้คนเริ่มเข้าใจและสร้างสมดุล ระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวมากขึ้น ต่อไปอาจจะส่งผลให้ถวิลหาบรรยากาศที่บ้านเวลาไปที่ทำงาน

นอกจากนี้การใช้ชีวิตกับครอบครัวในช่วงการเว้นระยะห่างทางสังคม ดิจิทัลมีบทบาทเข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะครอบครัวที่ลูกเล็ฏอยู่ในวัยเรียน ทางโรงเรียนก็มีการปรับตัวให้เด็กเรียนหนังสือผ่านออนไลน์ หลายคนตั้งคำถามว่าการเรียนหนังสือจากที่บ้านอาจเป็นสิ่งที่เพียงพอแล้วสำหรับเด็กในยุคเจนซี (Gen Z) และเจเนอเรชันอัลฟ่า (Alpha Generation) หรือไม่ ด้านซอฟต์แวร์ที่จะช่วยอำนวยความสะดวก ในการดำรงชีวิตจะยังคงถูกคิดค้น และจะถูกพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านต่างๆ ของชีวิตมนุษย์

2. อยู่บ้านอย่างมีสไตล์ ชีวิตบนโลกโซเชียลจะมาพร้อมโลกส่วนตัวให้ได้เห็น
เกิดวิถี In Home in Style เมื่ออยู่บ้านมาขึ้น จะทำให้หลายคนถ่ายทอดเรื่องราวด้วยการโพสต์ชีวิตด้านส่วนตัวบนโลกโซเชียลให้ได้เห็นมากขึ้น เน้นสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้จะได้เห็นว่าการสั่งอาหารในแพ็กเกจรักษ์โลก ถ่ายรูปลงอินสตาแกรมจะมีกันมากขึ้นจนเป็นเรื่องปกติ ภาพของการทำอาหารที่้้บ้าน กินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัว จะถูกแทนที่ด้วยพฤติกรรมนี้ อีกทั้งยอดการช้อปปิ้งออนไลน์จะเพิ่มมากขึ้นในแต่ละครั้ง การเดินทางออกไปซื้อของเองจะลดลงด้วย

3. สินค้าและบริการต่างๆ ยกระดับความสะอาด ช้อปปิ้งแบบใหม่ด้วยเทคโนโลยี
สะอาด 5 สัมผัส (Sanitized of Five Senses) คาดการณ์ว่า สินค้าและบริการต่างๆ หลายประเภท ต้องปรับตัวด้วยการยกระดับความสะอาดให้กับผู้บริโภค ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจะกลายเป็นของใช้ประจำวัน ช่องชำระสินค้าแบบไร้การสัมผัส จะสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบใหม่ เทคโนโลยีการสั่งงานด้วยเสียงจะกลายเป็นสิ่งจำเป็น ในสถานที่หรูหรารวมถึงร้านค้าปลีกด้วย ผู้บริโภคยังคงคาดหวังให้ร้านค้าวางเจลแอลกอฮอล์รวมถึงมีบรรจุภัณฑ์ถูกสุขอนามัยให้

4. สังคมไร้เงินสด ทำธุรกรรมผ่านโลกดิจิทัล
เก่งเทคโนโลยีการเงิน (Tech-finance Literacy) จะเห็นได้ว่าเริ่มมีการไม่ใช้เงินสดมาระยะหนึ่งในการใช้จ่ายและจะยังคงดำเนินต่อไป เพราะธนบัตรเงินเหรียญต่างๆ เป็นอีกแหล่งเชื้อโรค ต่อไปมนุษย์จะหันมาใช้เทคโนโลยีมากขึ้น เพราะคำนึงเรื่องความปลอดภัยเราจะได้เห็นพฤติกรรมการทำธุรกรรมทางการเงิน ผ่านโลกดิจิทัล, ดิจิทัลแบงกิ้ง (Digital Banking) หรือ ธนาคารแบบออนไลน์, แอปพลิเคชัน e-Wallet ซึ่งถือเป็นใบเบิกทาง สู่การทำทุกอย่างให้เป็นอีคอมเมิร์ซเพิ่มมากขึ้นด้วย

5. ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น การหาหมอทางออนไลน์จะมากขึ้นด้วย
ทุกคนจะมีความกังวลเรื่องสุขภาพ (Anxious about Health) และหาวิธีการดูแล ใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น โดยเฉพาะช่องทางการหาแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ เพราะข้อมูลทางการแพทย์ที่เผยว่า การรักษาสุขภาพให้ดีอยู่เสมอจะช่วยป้องกันไวรัสได้ ดังนั้นแล้วอาหารที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันจะเป็นที่ต้องการมากขึ้น, การหาข้อมูลเกี่ยวกับอาการของโรคจะเป็นสิ่งที่คนทำมากที่สุด การตรวจรักษากับแพทย์ผ่านระบบออนไลน์เพิ่มมากขึ้น, การให้คำปรึกษาทางสุขภาพกายและสุขภาพจิตแบบออนไลน์จะเป็นสิ่งสำคัญด้านสุขภาพ และชีวิตความเป็นอยู่

6. ผู้บริโภคต้องเชื่อมั่น “สุขอนามัย” ในแบรนด์ จึงจะตัดสินใจซื้อ
รูปแบบใหม่ของความเชื่อมั่น (Nouveau Trust) ผู้บริโภคจะต้องการข้อมูลและคอนเทนต์ที่ถูกต้องเกี่ยวกับสินค้าที่จะซื้อ โดยเฉพาะในเรื่องของความสะอาด ปลอดภัย สินค้าที่มีการตรวจสอบย้อนกลับได้, บรรจุภัณฑ์ของอาหารนำเข้าไมโครเวฟได้, สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้, ถูกสุขอนามัย และปิดมิดชิด แบรนด์ใดผ่านเกณฑ์เหล่านี้ผู้บริโภคคนไทยจะสนใจเพิ่มมากขึ้น จะเกิดความรู้สึกเชื่อใจในปัจจัยด้าน ‘สุขอนามัย’

7. งานบ้านเข้าสู่โลกดิจิทัล
ยอดขายจาก ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเกี่ยวกับตัวช่วยด้านงานบ้านต่าง ๆ จะมากขึ้น (Digitized Chore) เพราะเมื่อผู้คนอยู่บ้าน จึงทำให้ต้องการความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของหรือทำอาหารกินเอง โดยใช้โทรศัพท์มือถือสั่งของผ่านโลกออนไลน์ ซื้อของใช้ในบ้าน อาหาร หรือข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น จะไม่มีกำแพงกั้นในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านค้า กับการสั่งออนไลน์ จึงคาดการณ์ได้ว่ายอดขายจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซจะเพิ่มสูงมากขึ้นตามไปด้วย

8. การเปลี่ยนคุณค่าของ ความนิยมและพฤติกรรมการเสพสื่อ
สื่อจะมีการปรับเปลี่ยน เนื่องมาจากความต้องการพื้นฐานด้านสุขอนามัย ผู้คนจะมีความนิยมและพฤติกรรมการเสพสื่อที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น (Conversion of Media Appreciation) เนื่องมาจากความต้องการพื้นฐานด้านสุขอนามัย ผู้บริโภคจะใช้เวลาในโลกออนไลน์ยาวนานขึ้น รวมถึงแพลตฟอร์มต่างๆ จะถูกเชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อ อันเป็นผลจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค และการใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวมากขึ้น

อีกทั้งการปรับเปลี่ยนสื่อต่างๆ ทั้งในโรงภาพยนตร์ งานอีเวนต์ การทดสอบผลิตภัณฑ์ ต้องยกระดับด้านสุขอนามัยมากขึ้น การรวมพลังทางสังคมจะเกิดขึ้น และแข็งแกร่งกว่าครั้งใดๆ นำไปสู่การลดความแตกแยก เนื่องจากมีการคำนึงถึงส่วนรวม แทนการคำนึงถึงแต่ส่วนตน ข่าวปลอมต่างๆ จะลดน้อยลง สัญญาณข้อมูลต่างๆ (Data Signal) จะมีความละเอียดมากขึ้น โดยจะถูกนำไปผูกกับการระบุพิกัด (Geolocation) โดยผู้บริโภคจะยินยอมให้ข้อมูลส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมีคุณภาพอย่างยั่งยืน

บทความโดย การคาดการณ์ของ ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย

อายุจริงของนักแสดง ซีรีส์ A World of the Married Couple

แต่ละคนดูไปดูมาไม่รู้เลยว่าอายุจริงเท่าไหร่ เลยค้นหามาได้ประมาณนี้ (อัปเดตวันที่ 8 พ.ค. 63)


นางเอกของเรื่อง จี ซอนอู (Ji Sun-Woo) อายุจริง 53 ปี
(Kim Hee-Ae) เกิด April 23, 1967 สูง 164 ซม.

สามีนางเอก ลี แทโอ (LeeTae-Oh) อายุจริง 44 ปี
นักแสดง Park Hae-Joon วันเกิด June 14, 1976

ลูกชาย ลี จุนยอง อายุจริง 14 ปี
นักแสดง Jeon Jin-Seo วันเกิด May 28, 2006

คุณหมอ คิม ยุนกี อายุจริง 40 ปี (Kim Yoon-Ki)
นักแสดง Lee Moo-Saeng วันเกิด May 10, 1980 ส่วนสูง 182 ซม.

เพื่อนนางเอกที่เป็นหมอในโรงพยาบาล Sul Myung-Sook อายุจริง 50 ปี
นักแสดง Chae Gook-Hee วันเกิด September 18, 1970

โก เยริม (Ko Ye-Rim) เพื่อนบ้านนางเอก อายุจริง 44 ปี
นักแสดง Park Sun-Young วันเกิด August 21, 1976 สูง 165 ซ.ม.

สามีเยริม Son Je-Hyuk อายุจริง ปี 49 
Kim Young-Min วันเกิด November 5, 1971

ครอบครัวของดาคยอง 
เมียน้อย ดาคยอง Yeo Da-Kyung อายุจริง 26 ปี
นักแสดง Han So-Hee วันเกิด November 18, 1994
www.instagram.com/xeesoxee 

พ่อดาคยอง Yeo Byeong-Kyu อายุจริง 60 ปี
นักแสดง Lee Kyoung-Young วันเกิด December 12, 1960 สูง 163 ซม.

แม่ดาคยอง Uhm Hyo-Jung อายุจริง 52 ปี
นักแสดง Kim Sun-Kyung วันเกิด January 26, 1968

คุณป้า Chairman Choi's wife อายุจริง 52 ปี
นักแสดง Seo Yi-Sook วันเกิด January 15, 1968
ทวิตเตอร์ https://twitter.com/jangi8

พัค อินคยู Park In-Kyu อายุจริง 31 ปี
นักแสดง Lee Hak-Joo วันเกิด January 9, 1989

มิน ฮยอนซอ Min Hyun-Seo อายุจริง 28 ปี
นักแสดง Sim Eun-Woo วันเกิด June 2, 1992
www.instagram.com/eunoorang

ภาพเพิ่มเติม www.hancinema.net/korean_drama_The_World_of_the_Married-picture_gallery.html

ข้อมูลซีรีส์ The World of the Married
Director: Mo Wan-Il
Writer: Joo Hyun
Network: JTBC
Episodes: 16
Release Date: March 27 - May 16, 2020
ข้อมูลจาก http://asianwiki.com/The_World_of_the_Married
ดูที่นี่ www.viu.com/ott/th/th/vod/256499/A-World-of-Married-Couple

10 วิธี ประหยัดน้ำ ทำตามง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน

10 วิธี ประหยัดน้ำ จาก "การประปา" ที่ทำตามได้ง่ายๆ ทำกันได้ทุกคน เพื่อช่วยชาติสู้ภัยแล้งในปีนี้ ได้แก่

1. ทดสอบการรั่วซึมจากอุปกรณ์ใช้น้ำในบ้าน
รู้หรือไม่? หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมากที่สุดคือเกิดการรั่วซึมของอุปกรณ์ต่างๆ ในบ้าน เช่น ในครัวครัว ห้องน้ำ ห้องซักล้าง ฯลฯ สิ่งที่ควรทำเพื่อ “ประหยัดนำ้” (และประหยัดค่าน้ำประปาด้วย) คือ หมั่นตรวจสอบการรั่วขอโถสุขภัณฑ์ หากมีการรั่วซึมรีบซ่อมแซมทันที



2. ใช้ฝักบัว "ประหยัดน้ำ" ได้มากกว่า
เปลี่ยนมาอาบน้ำด้วยฝักบัวรูเล็ก และปิดน้ำระหว่างถูสบู่หรือสระผม การใช้ฝักบัวอาบน้ำจะประหยัดน้ำได้มากที่สุด และยิ่งรูฝักบัวเล็กก็ยิ่งประหยัดได้มากขึ้น

3. ใช้แก้วรองน้ำเวลาแปรงฟัน
อีกอย่างที่บางคนมักเผลอลืมตัวคือ ขณะแปรงฟันไม่ชอบใช้แก้วรองน้ำซึ่งแบบนั้นจะทำให้เปลืองน้ำมาก ดังนั้นวิธี "ประหยัดน้ำ" คือขณะแปรงฟันจึงควรใช้แก้วน้ำรองน้ำสำหรับไว้บ้วนปากขณะแปรงฟัน อย่าเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้ระหว่างแปรงฟัน ช่วย “ประหยัดน้ำ” ได้ถึง 20-30 ลิตรต่อครั้ง

4. รดน้ำต้นไม้ด้วยน้ำซักล้าง
สำหรับบ้านไหนกที่ปลูกต้นไม้หรือพืชผักสวนครัว และต้องหมั่นรดน้ำเป็นประจำ แนะนำให้ใช้นำเหลือจากการใช้งานอื่นๆ เช่น น้ำล้างจาน น้ำซักผ้า นำมาใช้รดน้ำผักแทนการเปิดน้ำสะอาดจากก๊อกมารดต้นไม้ ทำให้ช่วย “ประหยัดน้ำ” ได้มากกว่า และควรใช้ฝักบัวรดน้ำแทนสายยาง อีกทั้งไม่ควรรดน้ำต้นไม่ตอนแดดจัดเพราะจะทำให้น้ำระเหยไว ยกตัวอย่างเช่น การล้างผักและผลไม้ให้รองน้ำใส่กะละมังเท่าที่จำเป็น หลังจากล้างเสร็จแล้ว ให้นำน้ำที่ล้างผลไม้เหล่านั้นไปรดน้ำต้นไม้ต่อได้

5. รองน้ำใส่ถังเสมอ
สำหรับกิจกรรมการใช้น้ำเพื่อชำระล้างสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการล้างจาน ล้างผักผลไม้ ถูพื้น หรือล้างรถด้วยตัวเอง แนะนำว่าไม่ควรเปิดน้ำจากก๊อกเพื่อฉีดล้างโดยตรง ซึ่งจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมาก ควรเปลี่ยนมาใช้วิธีรองน้ำใส่ถังในการชำระล้างสิ่งต่างๆ แทน และโดยเฉพาะการล้างรถให้ล้างจากด้านบนลงด้านล่าง เพื่อที่น้ำจากด้านบนจะได้ไหลลงมาชะล้างด้านล่างไปพร้อมกัน ล้างได้สะอาดเร็วขึ้น และใช้น้ำน้อยลง

6. รินน้ำดื่มให้พอดี
เวลารินน้ำดื่มใส่แก้ว ให้รินน้ำแต่พอดีและดื่มให้หมดแก้ว แต่ถ้าหากดื่มน้ำไม่หมด ก็อย่าทิ้ง ให้นำไปรดน้ำต้นไม้ต่อได้ หรือนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น เช่น ใช้ผ้าชุบน้ำมาเช็ดฝุ่นตามจุดต่างๆ ในบ้าน เป็นต้น

7. ซักผ้าครั้งละมากๆ
เวลาจะซักผ้าต้องรวบซักในครั้งเดียว เพราะการซักผ้าต้องใช้น้ำเยอะในการซักต่อครั้ง หากซักบ่อยๆ ก็จะเป็นการสิ้นเปลืองน้ำ แนะนำให้ซักผ้าประมาณ 5-7 วันต่อครั้งก็พอ และหากใช้เครื่องซักผ้าแบบอัตโนมัติก็ปรับโหมด ECO ด้วย เพื่อเป็นการ "ประหยัดน้ำ"

8. เช็ดคราบอาหารก่อนล้างจาน
เวลาล้างจานมีเทคนิคการประหยัดน้ำ นั่นคือ ให้เช็ดคราบอาหารก่อนล้างจาน เพื่อลดปริมาณน้ำในขณะล้างจานไม่ให้สิ้นเปลือง วิธีนี้ช่วยให้ล้างจานได้สะอาดกว่าเดิม และใช้น้ำน้อยกว่าเดิมด้วย และอย่าใช้น้ำยาล้างจานมากเกินไป เพราะยิ่งน้ำยาล้างจานมีความเข้มข้นมากก็ยิ่งต้องใช้น้ำมากขึ้นในการล้างให้สะอาดหมดจด

9. ใช้ก๊อกน้ำแบบไหลเอื่อย
อีกหนึ่งวิธีที่ช่วย "ประหยัดน้ำ" ได้ดี ก็คือ ติดตั้งหัวก๊อกน้ำแบบประหยัดน้ำหรือไหลเอื่อย (Low-flow) เพื่อลดปริมาณการไหลของน้ำให้น้อยลงเวลาใช้ ซึ่งสามารถเปิดน้ำชะล้างทำความสะอาดได้ดีเหมือนเดิม

10. อาบน้ำให้รวดเร็ว
เปลี่ยนวิธีอาบน้ำ บางคนอาจจะชอบเปิดน้ำใส่อ่างอาบน้ำเพื่อแช่ตัวนานๆ ขณะอาบน้ำ หรือชอบเปิดน้ำฝักบัวแช่ไว้ระหว่างอาบน้ำ และชอบอาบน้ำช้า แบบนี้ก็จะยิ่งเปลืองน้ำมากไปอีก ควรปรับเปลี่ยนมาอาบน้ำให้เสร็จอย่างรวดเร็วไม่เกิน 5 นาที แต่ถ้าสระผมด้วยก็ควรใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที ก็จะช่วย "ประหยัดน้ำ" ได้อีกทางหนึ่ง