ในปัจจุบันนี้ ประเทศจีน ถือได้ว่าเป็นประเทศที่ติดอันดับต้น ๆ ของการส่งไข่มุกออกสู่ตลาดโลก ไข่มุกที่คุณภาพดีนั้น ควรมีอายุการเลี้ยงอยู่ที่ 8 เดือน ถึง 2 ปี ยิ่งเลี้ยงไว้ได้นาน ความสวยงามแวววาวยิ่งมีมากขึ้น แต่ส่วนมากที่พบในตลาดไข่มุกนั้น จะมีอายุการเลี้ยงอยู่ที่ 2-5 ปี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมด้วย เช่น มลภาวะทางน้ำ อุณหภูมิ และความอุดมสมบูรณ์ของทะเล
หอยไข่มุก ตัวหอยเรียกว่า "เบี้ย" , ไข่มุกเรียกเป็น "เม็ด"
ไข่มุกจำแนกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก คือ
ราคาไข่มุก
ไข่มุกธรรมชาติมีราคาสูงกว่า และราคาแตกต่างกันไปตามคุณสมบัติ เช่น รูปร่าง สี ขนาดและความมันวาว และไข่มุกที่มีราคาแพงที่สุดคือไข่มุกสีทอง
บางคนเข้าใจว่าไข่มุกน้ำจืดไม่ใช่ของจริง และเป็นของเทียมเท่านั้น ทั้งที่จริงแล้วไข่มุกน้ำจืดก็เหมือนกับไข่มุกน้ำเค็มนั่นล่ะ จะต่างกันคือไข่มุกน้ำจืดกลมและแวววาวเท่าไข่มุกน้ำเค็ม
ไข่มุกธรรมชาตินั้นเกิดจากการที่มีของแข็งชิ้นเล็กๆ เช่น เม็ดทราย หรือหิน ได้เล็ดลอดเข้าไปภายในเปลือกหอย ซึ่งทำให้หอยเกิดความระคายเคือง มันจะมีกลไกป้องกันตัวโดยสร้างชั้นที่เรียกว่า เนเคอร์ (nacre) เพื่อห่อหุ้มสิ่งแปลกปลอมนั้น โดยจะหุ้มหลายชั้นซ้ำไปซ้ำมา จนกระทั่งมีความหนามากขึ้นเรื่อยๆ ลักษณะคล้ายหัวหอมที่มีหลายชั้น รูปทรงของมันจะขึ้นอยู่กับรูปทรงของวัสดุแปลกปลอมที่เข้าไป ไข่มุกธรรมชาติ มักจะหายาก มีความงาม และมีราคาแพง มากกว่าไข่มุกเลี้ยง โดยซื้อขายกันเป็นน้ำหนักหน่วยกะรัต
ส่วนไข่มุกเลี้ยงนั้น มีกระบวนการเกิดขึ้นเช่นเดียวกับไข่มุกธรรมชาติ แต่วัสดุแปลกปลอมที่เข้าไปในตัวหอยนั้นจะไม่ใช่ความบังเอิญ แต่เป็นความจงใจของมนุษย์ผู้เลี้ยง โดยผู้เชี่ยวชาญจะต้องใช้เครื่องมื่อเปิดฝาหอยออก แล้วนำวัสดุเช่น ลูกปัดกลม ใส่ลงไป จากนั้นนำหอยไปเลี้ยง คอยดูแลสภาพแวดล้อม น้ำ อาหาร เมื่อเวลาผ่านไป วัสดุนั้นจะถูกเคลือบด้วยเนเคอร์ ยิ่งเนเคอร์มีความหนามากเท่าไร คุณภาพของมุกนั้นก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
มุกเลี้ยงส่วนใหญ่มักซื้อขายกันโดยวัดขนาดเป็นมิลลิเมตร โดยแหล่งที่มีการเลี้ยงไข่มุกซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกนั้นมีอยู่หลายแห่ง อย่างไรก็ตาม ยังมีแหล่งค้นหาไข่มุกตามธรรมชาติ ซึ่งให้มุกที่มีคุณภาพแตกต่างกันออกไป
ความแตกต่างของไข่มุกน้ำจืด และไข่มุกน้ำเค็ม
ไข่มุกน้ำจืดเติบโตในหอยแมลงภู่ ที่อาศัยในทะเลสาปและแม่น้ำ
ไข่มุกน้ำเค็มเติบโตในหอยนางรมที่อาศัยในทะเล มหาสมุทร นอกจากนั้นยังมีหอยอื่นๆ เช่น หอยมุกกวาง หรือหอยปีกนก, หอยมุกแกลบ หรือหอยมุกกระจิ และหอยมุกจาน ที่นำมาเลี้ยงเป็นหอยทำไข่มุกเช่นกัน
ไข่มุกน้ำจืดมีรูปร่างและสีสันที่หลากหลาย ขณะที่ไข่มุกน้ำเค็มจะเป็นสีขาวและขาวกว่าปกติ อาจจะมีประกายของเงินและทอง
Baroque บารอค เป็นไข่มุกที่มีรูปร่างบิดเบี้ยวไม่กลม มักเจอในไข่มุกน้ำจืด
วิธีสังเกตไข่มุกปลอม
1. สังเกตรอยแตกหรือลักษณะผิวว่ามีสิ่งปกติหรือไม่ โดยไข่มุกเทียมมักจะเคลือบสีด้วยแลกเกอร์ หรือสารเคลือบอื่นๆ เพื่อเพิ่มความมันวาว
2. นำมุกแต่ละเม็ดมาถูกันเบาๆ แล้วจับดู หากรู้สึกลื่นๆ ไม่มีความสากเลย ก็ให้สันนิษฐานไว้เลยว่าอาจจะเป็นของปลอม (อย่างไรก็ดี วิธีการทดสอบแบบนี้ควรจะระมัดระวังและควรจะทำอย่างเบามือ เพราะไข่มุกแท้จะมีความเปราะบางมาก หรือถูแรงเกินไปผิวมุกอาจสึกหรอได้)
3. ใช้ไฟลน เพราะไข่มุกแท้จะทนทานต่อไฟ แม้จะเป็นรอยไหม้ก็สามารถเช็ดออกได้
รูปร่างของไข่มุก
round วงกลม , semi-round , button , pear , drop หยดน้ำ , oval วงรี , baroque , ringed
ไข่มุกบาร็อค (baroque) จะเป็นทรงที่เหมือนมีหาง ออกมาด้วย
ชื่อเรียกแบบไทยๆ ก็เช่น ทรงซาลาเปา ทรงเม็ดข้าว ทรงข้าวโพด
ตารางเปรียบเทียบ ไข่มุกน้ำจืด / ไข่มุกน้ำเค็ม
ประเภทของน้ำ : น้ำจืด ปราศจากน้ำเกลือ / น้ำเกลือ
แหล่งน้ำ : ทะเลสาบ แม่น้ำลำธาร / มหาสมุทรและทะเล
ประเภทหอย : หอยแมลงภู่ / หอยนางรม
ราคา : ราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับไข่มุกน้ำเค็ม / มีราคาแพงกว่า เพราะมีขนาดใหญ่กว่าและมีความมันวาวมากกว่า
สี :ขาวครีมชมพูลาเวนเดอร์ และทองแดง / ครีมและสีขาว
จำนวนไข่มุกที่ผลิตในครั้งเดียว : สามารถมากถึง 50 เม็ด / สามารถผลิตได้ระหว่าง 1-3 เม็ด
เวลา : 4-6 ปี / 6 ถึง 18 เดือน
ชั้นมุก : nacre (ชั้นมุก)กระจายไปในไข่มุกหลายเม็ด / nacre (ชั้นมุก)คลุมแน่นเต็มที่
ความเป็นเงา : มันวาวน้อยลง / มันวาวมากขึ้น
ขนาด : น้อยกว่า 7 มม. สามารถมีขนาดมากกว่า 7 มม. และมีขนาดใหญ่กว่า
ไข่มุกดำ
ไข่มุกดำนั้นมาจากหอยชนิดที่เรียกว่า Pinctada Margaritafera ซึ่งเป็นหอยที่มีเนื้อเปลือกในเป็นสีดำ พบได้ในทะเลแถบเฟรนช์ โพลิเนเซีย ทะเลใต้ หรืออ่าวแคลิฟอร์เนีย ซึ่งไข่มุกดำที่มีชื่อเสียงมากๆ มาจากเกาะตาฮิติ ซึ่งตอนหลังเพาะหอยมุกดำได้สำเร็จ
ไข่มุกแต่ละชนิดมีดีในตัวเอง ขึ้นอยู่กับว่า มีรอยตำหนิน้อยที่สุดแค่ไหน ขนาดเป็นอย่างไร น้ำหนักเท่าไหร่ นอกจากนี้ยัง ขึ้นอยู่กับการออกแบบเพื่อนำไข่มุกไปทำอัญมณีด้วย
ข้อมูลจาก https://th.natapa.org และ www.facebook.com/phuketpearlgroup, www.mushroomtravel.com , http://www.shiboshop.com
1. ไข่มุกน้ำจืด (fresh water) และ 2. ไข่มุกน้ำเค็ม (salt water) (ทะเล)
และแยกได้อีกคือ 1. ไข่มุกธรรมชาติ 2.ไข่มุกเลี้ยง(ฟาร์ม)
ชนิดของหอยมุก แบ่งตามแหล่งกำเนิด
1.หอยมุกญี่ปุ่น หรือ มุกอะโกย่า (Akoya Pearl) ถิ่นกำเนิดในญี่ปุ่น
2.หอยมุกทะเลใต้ (South Sea Pearl) อยู่แถบทะเลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ออสเตรเลีย อินโดฯ และพม่า
3.หอยมุกตาฮิติ (Tahitian Pearl) อยู่ตามเกาะคุก เกาะตาฮิติ หมู่เกาะโพลินิเซีย ประเทศฝรั่งเศส (เป็นไข่มุกมที่มีสีสันมากกว่าไข่มุกประเภทอื่น มีความวาวคล้ายโลหะ มีสีเข้ม เช่น เทา ดำ น้ำเงินเข้ม เขียว หรือออกม่วง ขนาด 8-16 มล.)
4.หอยมุกน้ำจืด (Freshwater Pearl) พบได้ทุกที่ทั่วโลก โดยมากมีต้นกำเนิดจาก อเมริกา ญี่ปุ่นและจีน แม้จะมีความแวววาวน้อยกว่ามุกน้ำเค็ม แต่ก็มีสีสันหลากหลาย เพราะใช้กระบวนการพิเศษในการเพาะเลี้ยง จึงได้รับความนิยมพอสมควร
5.หอยมุกซีก (หรือไข่มุกซีก มุกมาบิ (Mabe Pearl)) เป็นไข่มุกที่เติบโต ติดกับเปลือกหอย ไม่ได้เติบโตในตัวหอยอย่างไข่มุกชนิดอื่นๆ
ราคาไข่มุก
ไข่มุกธรรมชาติมีราคาสูงกว่า และราคาแตกต่างกันไปตามคุณสมบัติ เช่น รูปร่าง สี ขนาดและความมันวาว และไข่มุกที่มีราคาแพงที่สุดคือไข่มุกสีทอง
บางคนเข้าใจว่าไข่มุกน้ำจืดไม่ใช่ของจริง และเป็นของเทียมเท่านั้น ทั้งที่จริงแล้วไข่มุกน้ำจืดก็เหมือนกับไข่มุกน้ำเค็มนั่นล่ะ จะต่างกันคือไข่มุกน้ำจืดกลมและแวววาวเท่าไข่มุกน้ำเค็ม
ไข่มุกธรรมชาตินั้นเกิดจากการที่มีของแข็งชิ้นเล็กๆ เช่น เม็ดทราย หรือหิน ได้เล็ดลอดเข้าไปภายในเปลือกหอย ซึ่งทำให้หอยเกิดความระคายเคือง มันจะมีกลไกป้องกันตัวโดยสร้างชั้นที่เรียกว่า เนเคอร์ (nacre) เพื่อห่อหุ้มสิ่งแปลกปลอมนั้น โดยจะหุ้มหลายชั้นซ้ำไปซ้ำมา จนกระทั่งมีความหนามากขึ้นเรื่อยๆ ลักษณะคล้ายหัวหอมที่มีหลายชั้น รูปทรงของมันจะขึ้นอยู่กับรูปทรงของวัสดุแปลกปลอมที่เข้าไป ไข่มุกธรรมชาติ มักจะหายาก มีความงาม และมีราคาแพง มากกว่าไข่มุกเลี้ยง โดยซื้อขายกันเป็นน้ำหนักหน่วยกะรัต
ส่วนไข่มุกเลี้ยงนั้น มีกระบวนการเกิดขึ้นเช่นเดียวกับไข่มุกธรรมชาติ แต่วัสดุแปลกปลอมที่เข้าไปในตัวหอยนั้นจะไม่ใช่ความบังเอิญ แต่เป็นความจงใจของมนุษย์ผู้เลี้ยง โดยผู้เชี่ยวชาญจะต้องใช้เครื่องมื่อเปิดฝาหอยออก แล้วนำวัสดุเช่น ลูกปัดกลม ใส่ลงไป จากนั้นนำหอยไปเลี้ยง คอยดูแลสภาพแวดล้อม น้ำ อาหาร เมื่อเวลาผ่านไป วัสดุนั้นจะถูกเคลือบด้วยเนเคอร์ ยิ่งเนเคอร์มีความหนามากเท่าไร คุณภาพของมุกนั้นก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
มุกเลี้ยงส่วนใหญ่มักซื้อขายกันโดยวัดขนาดเป็นมิลลิเมตร โดยแหล่งที่มีการเลี้ยงไข่มุกซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกนั้นมีอยู่หลายแห่ง อย่างไรก็ตาม ยังมีแหล่งค้นหาไข่มุกตามธรรมชาติ ซึ่งให้มุกที่มีคุณภาพแตกต่างกันออกไป
ความแตกต่างของไข่มุกน้ำจืด และไข่มุกน้ำเค็ม
ไข่มุกน้ำจืดเติบโตในหอยแมลงภู่ ที่อาศัยในทะเลสาปและแม่น้ำ
ไข่มุกน้ำเค็มเติบโตในหอยนางรมที่อาศัยในทะเล มหาสมุทร นอกจากนั้นยังมีหอยอื่นๆ เช่น หอยมุกกวาง หรือหอยปีกนก, หอยมุกแกลบ หรือหอยมุกกระจิ และหอยมุกจาน ที่นำมาเลี้ยงเป็นหอยทำไข่มุกเช่นกัน
ไข่มุกน้ำเค็มจะมีความเงาแวววาวกว่าไข่มุกน้ำจืด
ไข่มุกน้ำจืดมีรูปร่างและสีสันที่หลากหลาย ขณะที่ไข่มุกน้ำเค็มจะเป็นสีขาวและขาวกว่าปกติ อาจจะมีประกายของเงินและทอง
Baroque บารอค เป็นไข่มุกที่มีรูปร่างบิดเบี้ยวไม่กลม มักเจอในไข่มุกน้ำจืด
วิธีสังเกตไข่มุกปลอม
1. สังเกตรอยแตกหรือลักษณะผิวว่ามีสิ่งปกติหรือไม่ โดยไข่มุกเทียมมักจะเคลือบสีด้วยแลกเกอร์ หรือสารเคลือบอื่นๆ เพื่อเพิ่มความมันวาว
2. นำมุกแต่ละเม็ดมาถูกันเบาๆ แล้วจับดู หากรู้สึกลื่นๆ ไม่มีความสากเลย ก็ให้สันนิษฐานไว้เลยว่าอาจจะเป็นของปลอม (อย่างไรก็ดี วิธีการทดสอบแบบนี้ควรจะระมัดระวังและควรจะทำอย่างเบามือ เพราะไข่มุกแท้จะมีความเปราะบางมาก หรือถูแรงเกินไปผิวมุกอาจสึกหรอได้)
3. ใช้ไฟลน เพราะไข่มุกแท้จะทนทานต่อไฟ แม้จะเป็นรอยไหม้ก็สามารถเช็ดออกได้
รูปร่างของไข่มุก
round วงกลม , semi-round , button , pear , drop หยดน้ำ , oval วงรี , baroque , ringed
ไข่มุกบาร็อค (baroque) จะเป็นทรงที่เหมือนมีหาง ออกมาด้วย
ชื่อเรียกแบบไทยๆ ก็เช่น ทรงซาลาเปา ทรงเม็ดข้าว ทรงข้าวโพด
ตารางเปรียบเทียบ ไข่มุกน้ำจืด / ไข่มุกน้ำเค็ม
ประเภทของน้ำ : น้ำจืด ปราศจากน้ำเกลือ / น้ำเกลือ
แหล่งน้ำ : ทะเลสาบ แม่น้ำลำธาร / มหาสมุทรและทะเล
ประเภทหอย : หอยแมลงภู่ / หอยนางรม
ราคา : ราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับไข่มุกน้ำเค็ม / มีราคาแพงกว่า เพราะมีขนาดใหญ่กว่าและมีความมันวาวมากกว่า
สี :ขาวครีมชมพูลาเวนเดอร์ และทองแดง / ครีมและสีขาว
จำนวนไข่มุกที่ผลิตในครั้งเดียว : สามารถมากถึง 50 เม็ด / สามารถผลิตได้ระหว่าง 1-3 เม็ด
เวลา : 4-6 ปี / 6 ถึง 18 เดือน
ชั้นมุก : nacre (ชั้นมุก)กระจายไปในไข่มุกหลายเม็ด / nacre (ชั้นมุก)คลุมแน่นเต็มที่
ความเป็นเงา : มันวาวน้อยลง / มันวาวมากขึ้น
ขนาด : น้อยกว่า 7 มม. สามารถมีขนาดมากกว่า 7 มม. และมีขนาดใหญ่กว่า
ไข่มุกดำ
ไข่มุกดำนั้นมาจากหอยชนิดที่เรียกว่า Pinctada Margaritafera ซึ่งเป็นหอยที่มีเนื้อเปลือกในเป็นสีดำ พบได้ในทะเลแถบเฟรนช์ โพลิเนเซีย ทะเลใต้ หรืออ่าวแคลิฟอร์เนีย ซึ่งไข่มุกดำที่มีชื่อเสียงมากๆ มาจากเกาะตาฮิติ ซึ่งตอนหลังเพาะหอยมุกดำได้สำเร็จ
ไข่มุกแต่ละชนิดมีดีในตัวเอง ขึ้นอยู่กับว่า มีรอยตำหนิน้อยที่สุดแค่ไหน ขนาดเป็นอย่างไร น้ำหนักเท่าไหร่ นอกจากนี้ยัง ขึ้นอยู่กับการออกแบบเพื่อนำไข่มุกไปทำอัญมณีด้วย
การเลือกซื้อไข่มุก
1.ควรพิจารณาขนาดและรูปร่างของไข่มุกที่เราจะซื้อ ว่าต้องการซื้อไปทำเครื่องประดับชนิดไหน และเครื่องประดับที่จะทำออกมานั้นเหมาะสมกับรูปร่างของไข่มุกที่เลือกใช้หรือไม่ หรือหากซื้อเครื่องประดับสำเร็จรูปก็ควรพิจารณาด้วยเช่นเดียวกัน อย่างเช่นการซื้อสร้อยคอไข่มุกก็ควรเลือกไข่มุกให้มีขนาดที่เท่ากันหรือไล่เลี่ยกันตลอดทั้งเส้น อีกทั้งยังควรมีสีที่สม่ำเสมอกันอีกด้วย
2.เลือกโดยพิจารณาจากสีสัน เนื่องจากสีของไข่มุกที่นิยมกันในท้องตลาดจะมีอยู่ทั้งหมด 2 ประเภทคือ สีขาว สีครีม สีเหลือง เรียกว่าบอดี้ คัลเลอร์ (Body Color) ส่วนสีเขียว สีชมพู สีเงิน สีฟ้าจะเรียกว่าโอเวอร์โทน ทั้งนี้ไข่มุกเป็นอัญมณีชนิดเดียวที่นำมาทำเป็นเครื่องประดับโดยไม่ต้องมีการขัดหรือเจียระไนอย่างอัญมณีชนิดอื่นๆ เพื่อให้คงความงดงามตามธรรมชาตินั่นเอง
3. พิจารณาลักษณะเนื้อผิวของไข่มุกเป็นส่วนสำคัญ เพราะไข่มุกที่ดีจะต้องมีผิวเรียบเนียนไม่มีริ้วรอยหรือตำหนิใดๆ ดังนั้นการเลือกซื้อจึงควรสังเกตอย่างละเอียด
4. พิจารณาจากความมันวาว เนื่องจากไข่มุกที่ดีจะต้องมีเนื้อที่มันวาวสดใส ไร้ความหมองคล้ำ นอกจากนั้นยังควรมีประกายสม่ำเสมอทั้งเม็ด และเมื่อนำไปส่องแสงไฟดู หากมองเห็นเหลือบสีมากก็แสดงว่าเป็นไข่มุกที่ดี เพราะไข่มุกที่มีชั้นหนามากก็จะมีความมันวาวมากตามไปด้วย
การเลี้ยงหอยมุกในประเทศไทย อ่าน
ไข่มุกอันดามัน Andaman Pearls เเหล่งเลี้ยงหอยมุกของจ.ภูเก็ต อ่าน https://sites.google.com/site/khimuksaenswy/khimuk-ni-prathesthiy
หอยไข่มุก https://board.postjung.com/753399
แหล่งเพาะหอยไข่มุก
https://www.thaigreenagro.com/การเพาะเลี้ยงหอยมุก/
หนังสือ ไข่มุุกแห่งท้องทะเล
https://books.google.co.th/books
https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/69784/-scibio-sci-
https://guru.sanook.com/8844/
https://www.git.or.th/pearl.html
https://www.lenyajewelry.co.th/
https://www.facebook.com/rawinan.pearl/posts/411993459187418/
http://www0.tint.or.th/nkc/nkc51/nkc5103/nkc5103s.html
https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/69784/-scibio-sci-
https://guru.sanook.com/8844/
https://www.git.or.th/pearl.html
https://www.lenyajewelry.co.th/
https://www.facebook.com/rawinan.pearl/posts/411993459187418/
http://www0.tint.or.th/nkc/nkc51/nkc5103/nkc5103s.html