1. แบบ Round Shape
ดอกไม้ที่นำมาทำช่อจะถูกรวบแน่นให้เป็นทรงกลม ช่อชนิดนี้ถือว่าเป็นทรงคลาสสิกสำหรับงานแต่งงาน ที่นิยมยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน ยิ่งนำดอกไม้หลากชนิดหลายสี จะยิ่งทำให้ช่อดอกไม้แบบนี้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น
2. แบบ Hand - Tied
แบบผูกหลวมทรงนี้จะคล้ายกับทรงกลม แต่ต่างกันที่จะมีการผูกแค่ที่เดียวและจะไม่เอาริบบิ้นพันก้านจนแน่น แล้วเหลือก้านยาวพอ ๆ กับความสูงของดอกไม้เหนือริบบิ้น ช่อทรงนี้มีแรงบันดาลใจจากความสดของดอกไม้ ประหนึ่งว่าเพิ่งเก็บดอกไม้มาจากสวยมะกี้เลย
3. แบบ Presentation
บางทีอาจจะเรียกว่า arm sheaf bouquets หรือ pageant bouquets เพราะว่ามันจะมีทรงยาวพาดแขน ช่อลักษณะนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกถ้าคุณต้องการช่อดอกไม้ที่อลังการสักหน่อย จุดเด่นจะอยู่ที่ ดอกไม้ก้านยาว ดูหรูหรา และผูกตกแต่งด้วยริบบิ้นทิ้งปลายยาว
4. แบบ Posey
สำหรับคนที่ไม่ชอบช่อดอกไม้ขนาดใหญ่ต้องชอบทรงนี้แน่นอน ถึงแม้อาจจะมีรูปร่างหลากหลายแตกต่างกันไป แต่ตั้งใจทำขึ้นสำหรับถือด้วยมือเดียว รวบดอกไม้เข้าด้วยกันโดยริบบิ้นหรือซาตินบาง จุดเด่นอยู่ที่ริบบิ้นที่ผูกอาจจะตกแต่งด้วยมุก หรือเครื่องประดับอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้ช่อดอกไม้เล็ก ๆ นี้ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น
5. แบบ Winter
หนาวตามชื่อแต่เราไม่ได้หมายถึงอุณหภูมินะคะ เราหมายถึงว่าช่อดอกไม้แบบนี้ใช้ดอกไม้และช่อตกแต่งที่ขึ้นในฤดูหนาว ประมาณว่ามองแวปเดียวก็รู้ว่าอันนี้ winter ชัดๆ อาจจะนอกกรอบไปนิดเหมือนเทียบกับช่อชนิดอื่น ๆ เพราะอาจจะมี ก้านเบอร์รี่ ลูกสน และกิ่งไม้ เป็นต้น นำมาเข้าช่อด้วย...น่าลองทำเหมือนกันนะเนี่ย
6. แบบ Nosegay
ช่อแบบนี้จะเน้นสีเขียวมากกว่าสีสันของดอกไม้ นักจัดดอกไม้มักจะใช้สีเขียวจากสมุนไพรมาตกแต่งด้วย ทรงนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 เพราะต้องการกลิ่นหอมสดชื่นและปกปิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ถือเป็นช่อดอกไม้ร่วมสมัยที่รวมความสวยงามของดอกไม้และกลิ่นหอมไว้ด้วยกัน
ดอกไม้ที่นำมาทำช่อจะถูกรวบแน่นให้เป็นทรงกลม ช่อชนิดนี้ถือว่าเป็นทรงคลาสสิกสำหรับงานแต่งงาน ที่นิยมยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน ยิ่งนำดอกไม้หลากชนิดหลายสี จะยิ่งทำให้ช่อดอกไม้แบบนี้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น
2. แบบ Hand - Tied
แบบผูกหลวมทรงนี้จะคล้ายกับทรงกลม แต่ต่างกันที่จะมีการผูกแค่ที่เดียวและจะไม่เอาริบบิ้นพันก้านจนแน่น แล้วเหลือก้านยาวพอ ๆ กับความสูงของดอกไม้เหนือริบบิ้น ช่อทรงนี้มีแรงบันดาลใจจากความสดของดอกไม้ ประหนึ่งว่าเพิ่งเก็บดอกไม้มาจากสวยมะกี้เลย
3. แบบ Presentation
บางทีอาจจะเรียกว่า arm sheaf bouquets หรือ pageant bouquets เพราะว่ามันจะมีทรงยาวพาดแขน ช่อลักษณะนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกถ้าคุณต้องการช่อดอกไม้ที่อลังการสักหน่อย จุดเด่นจะอยู่ที่ ดอกไม้ก้านยาว ดูหรูหรา และผูกตกแต่งด้วยริบบิ้นทิ้งปลายยาว
4. แบบ Posey
สำหรับคนที่ไม่ชอบช่อดอกไม้ขนาดใหญ่ต้องชอบทรงนี้แน่นอน ถึงแม้อาจจะมีรูปร่างหลากหลายแตกต่างกันไป แต่ตั้งใจทำขึ้นสำหรับถือด้วยมือเดียว รวบดอกไม้เข้าด้วยกันโดยริบบิ้นหรือซาตินบาง จุดเด่นอยู่ที่ริบบิ้นที่ผูกอาจจะตกแต่งด้วยมุก หรือเครื่องประดับอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้ช่อดอกไม้เล็ก ๆ นี้ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น
5. แบบ Winter
หนาวตามชื่อแต่เราไม่ได้หมายถึงอุณหภูมินะคะ เราหมายถึงว่าช่อดอกไม้แบบนี้ใช้ดอกไม้และช่อตกแต่งที่ขึ้นในฤดูหนาว ประมาณว่ามองแวปเดียวก็รู้ว่าอันนี้ winter ชัดๆ อาจจะนอกกรอบไปนิดเหมือนเทียบกับช่อชนิดอื่น ๆ เพราะอาจจะมี ก้านเบอร์รี่ ลูกสน และกิ่งไม้ เป็นต้น นำมาเข้าช่อด้วย...น่าลองทำเหมือนกันนะเนี่ย
6. แบบ Nosegay
ช่อแบบนี้จะเน้นสีเขียวมากกว่าสีสันของดอกไม้ นักจัดดอกไม้มักจะใช้สีเขียวจากสมุนไพรมาตกแต่งด้วย ทรงนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 เพราะต้องการกลิ่นหอมสดชื่นและปกปิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ถือเป็นช่อดอกไม้ร่วมสมัยที่รวมความสวยงามของดอกไม้และกลิ่นหอมไว้ด้วยกัน