2. ใช้ห้องนอนสำหรับการนอนเท่านั้น งดเว้นกิจกรรมอื่นในห้องนอน เช่น ทานอาหาร หรือเล่นเกมต่างๆ
3. การดื่มนมอุ่นๆ สักแก้ว หรือกล้วยสักผลช่วยให้หลับได้ดีขึ้น
4. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่กระตุ้นสมองทุกชนิด เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง ในตอนบ่าย ตอนเย็น หรือช่วงก่อนนอน
5. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ทุกชนิด เพราะจะมีสารเคมีที่ออกฤทธิ์ต่อสมองทำให้นอนไม่หลับ แม้ว่าเราจะเคยได้ยินมาว่า แอลกอฮอล์ช่วยให้หลับง่าย แต่ถ้าดื่มอย่างต่อเนื่องก็เป็นผลร้ายต่อการนอนเหมือ นกัน ดังนั้นไม่ดื่มดีที่สุด
6. การออกกำลังกายในช่วงเช้าอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ วันจะช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น ไม่ควรออกกำลังกายหนักในช่วงเย็นหรือก่อนนอน
7. พยายามตื่นนอนให้เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน รวมไปถึงวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดพิเศษอื่นๆ ด้วย เพราะวิธีนี้จะทำให้วงจรการหลับ-ตื่นของเราทำงานได้ดี
8. หลีกเลี่ยงการดูภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ หรือเล่มเกมคอมพิวเตอร์ ที่มีความตื่นเต้นในช่วงก่อนเข้านอน
9. พยายามไม่ดื่มน้ำมากในตอนเย็น เพื่อกลางดึกจะได้ไม่ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำ
10. คนที่โกรธหรือหงุดหงิดเพราะตัวเองนอนไม่หลับนั้น ไม่ควรที่จะข่มตาบังคับให้หลับอีกต่อไป ควรลุกขึ้นออกจากห้องนอนมาหากิจกรรมอย่างอื่นทำ อาทิ อ่านหนังสือธรรมะสักเล่ม (ไม่ควรทำอะไรที่ตาสว่าง) เมื่อรู้สึกง่วงจึงกลับไปนอน
11. ถ้ารู้สึกว่าตัวเองตื่นมากลางดึกแล้วคอยดูเวลาอยู่เร ื่อยๆ ก็ให้เก็บนาฬิกานั้นไปไว้ที่อื่น
12. ไม่ควรทานยานอนหลับ เพราะอาจส่งผลไปถึงการเป็นโรคสมองเสื่อม
7 เคล็ดลับสำหรับห้องนอนชั้นเยี่ยม
1. ห้องนอนควรอยู่ในที่อากาศโปร่ง มีลมเข้าออก และถ้ามีอากาศที่เย็นสบายอยู่แล้วในช่วงกลางคืน ก็ไม่จำเป็นต้องติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้สิ้นเปลือ ง
2. ควรเปิดหน้าต่างห้องนอนทุกวันเพื่อให้อากาศถ่ายเท ไม่อับชื้น โดยเฉพาะในหน้าฝน
3. ผึ่งผ้าคลุมเตียงทุกเช้า รวมไปถึงชุดเครื่องนอนต่างๆ เพื่อไล่กลิ่นตัว เหงื่อ และไรฝุ่นที่ติดอยู่ให้สลายไป
4. ลดเครื่องใช้ไฟฟ้าให้น้อยชิ้น และตั้งเตียงให้ห่างจากปลั๊กไฟ เพื่อเป็นการลดสัมผัสกับสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ที่อาจทำให้คุณเป็นโรคอัลไซเมอร์หรือโรคมะเร็ง
5. ควรเลือกเครื่องนอนที่ทำจากไม้ธรรมชาติและปราศจากสาร พิษ
6. เวลาเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ให้นำที่นอนออกไปผึ่งแดดสักครู่ อาจจะดูดฝุ่น หรือฉีดพ่นด้วยน้ำเปล่าผสมน้ำมันยูคาลิปตัสเพื่อไล่ไ รฝุ่น
7. ห้องนอนควรมีข้าวของเครื่องใช้ เครื่องตกแต่งน้อยชิ้น เพื่อสะดวกแก่การทำความสะอาด
พอกันที!! อาการกรน
อาการกรน แม้จะเป็นอาการที่ไม่ร้ายแรงต่อสุขภาพเท่าไรนัก แต่ก็เป็นพฤติกรรมอันดับหนึ่งในการทำลายความสุขในการ นอนของคนที่อยู่ร่วม เรียงเคียงหมอนกับคุณ คงไม่มีใครอยากฟังเสียงกรน คร๊อกๆ แล้วนอนอย่างมีความสุขกันหรอก สาเหตุของการกรนนั้น มีหลายสาเหตุใหญ่ๆ ด้วยกัน ดังนี้
- เกิดจากจมูกตัน เนื่องจากอาการคัดจมูก ทำให้หายใจไม่ออก
- เกิดจากการแพ้ แพ้อากาศ แพ้ขนสัตว์ หรือแพ้ไรฝุ่น
- เกิดจากการหลับในท่านอนหงาย
- เกิดจากการดื่มแอลกอฮอลล์มากเกินไป
- เกิดจากการทำงานหนักและเหนื่อยมาก
- เกิดจากการที่เรามีน้ำหนักตัวมากจนเกินไป
สำหรับการแก้ไขอาการกรนนั้น เราจำเป็นต้องรู้ถึงสาเหตุก่อนว่า อาการกรนเกิดมาจากอะไร เมื่อทราบแล้วก็แก้ไขตามสาเหตุ อาทิ
- ถ้าคุณแพ้อากาศ ก็หาเครื่องกรองอากาศมาติดตั้ง ถ้าคุณแพ้สัตว์เลี้ยงก็ย้ายไปนอกบ้าน
- ถ้านอนหงายแล้วกรน ก็หาหมอนข้างสักอันมากอด แล้วเอาอีกอันดันหลังคุณไว้
- ถ้าเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์ ก็งดดื่มซะ
- ถ้ารู้สึกคัดจมูก หรือหายใจติดขัด ก็ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อหายาทาหรือสูดดมที่เหมาะสม