กระเป๋าเดินทางล้อลาก เลือกซื้อยังไง
1. ล้อ
ล้อที่ดีที่สุดควรเป็นล้อยางทั้งลูก ชนิดที่มีตลับลูกปืน ตัวล้อควรฝังอยู่ภายในกระเป๋าเดินทางโดยเฉพาะกระเป๋าเดินทางที่ไว้ใต้ท้องเครื่องบิน เพราะจะป้องกันการเสียของล้อได้ สำหรับกระเป๋าเดินทางที่นำติดตัวขึ้นเครื่องบิน ควรดูขนาดให้ถูกตามกฎเกณฑ์ของสายการบินที่เค้ากำหนดไว้ ปกติมักจะไม่เกิน 20 นิ้ว
แนะนำให้มองหากระเป๋าเดินทางล้อลาก แบบ 4 ล้อ ไว้ก่อน เพราะจะช่วยผ่อนแรงงานเวลาเคลื่อนย้ายได้เยอะเลย (แต่ราคาแบบ 4 ล้อ ก็แน่นอนว่าแพงกว่า 2 ล้อแน่นอนค่ะ)
2. หูหิ้ว
หูหิ้วแบบยืดหด ควรติดตั้งและยึดเกาะกับกระเป๋าได้เป็นอย่างดี ถ้าเป็นแบบพับ ก็ต้องแนบติดกับตัวกระเป๋าเดินทาง เพื่อป้องกันความเสียหายของเสาคันชัก เวลาเราชักเข้าชักออก
3. Denier (หน่วยวัดความแข็งแรงของผ้า)
Denier เป็นหน่วยของการวัดขนาดเส้นใยที่ใช้ในการทอผ้า dinier ยิ่งมากจะทำให้ผ้าหนักยิ่งขึ้น สำหรับวัสดุที่นำมาทอเป็นผ้าก็ให้ความแข็งแรงแตกต่างกันด้วย เช่น โพลีเอสเตอร์ (Polyester) 1800 denier แข็งแรงกว่า Polyester 1200 denier แต่แข็งแรงน้อยกว่า Ballistic nylon 1050 denier โดยทั่วไป ตามสายการบินจะไม่ยอมรับความเสียหายกับกระเป๋าเดินทางที่ทำด้วยผ้า 600-700 denier
* กระเป๋าเดินทาง ทุกยี่ห้อ จะรับประกันก็ต่อเมื่อ มีความเสียหายที่เกิดจากการผลิตเท่านั้น เช่น ซิปผิดปกติ รอยเย็บเบี้ยว หูลากหลุด หรือน็อตหลุด การรับประกันส่วนใหญ่จะเป็นของผู้ผลิต ไม่ใช่เป็นของร้านที่ขาย ดังนั้นไม่ควรไปเชื่อกับการรับประกันของร้านมากนัก เวลาเลือกซื้อควรตรวจตรา ดูองค์ประกอบต่างๆ ให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสิ้นใจซื้อเสมอ
4. การซื้อ กระเป๋าเดินทาง เป็นการลงทุนไม่ใช่ความสิ้นเปลือง
การคุ้มค่าในการลงทุนซื้อ กระเป๋าเดินทาง ขึ้นอยู่กับอายุของการใช้งานของ กระเป๋าเดินทาง ถ้าคุณจ่ายเงินสองเท่าเพื่อซื้อกระเป๋าเดินทางที่มีอายุใช้งานนานขึ้น 4 ปี ก็ถือว่าคุ้มค่า แต่อย่าลืมค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมด้วยนะจ้ะ
5. ไม่ต้องกังวลว่า กระเป๋าเดินทางใบใหญ่กว่าจะหนักมากกว่า
สิ่งของที่คุณจะบรรจุลงในกระเป๋าเดินทางอาจมีน้ำหนักประมาณ 20-30 กก. แต่น้ำหนักกระเป๋าเดินทางที่ใหญ่เล็กต่างกัน 4-6 นิ้ว อาจมีน้ำหนักต่างกันเพียงครึ่งกิโลเท่านั้น และคุณจะรู้ว่า ถ้ากระเป๋าเดินทางไม่พอคุณต้องซื้ออีกใบที่ น้ำหนักอย่างต่ำก็ ประมาณ 3-4 กก. ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองเพิ่มขึ้นอีก มองดูแล้วมันไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย
6. กระเป๋าเดินทางใหญ่ก็ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป
คนทั่วไปจะบรรจุสิ่งของลงในกระเป๋าขนาด 26 นิ้วได้พอดี ดังนั้นก็ไม่ควรใช้กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่กว่านี้ โดยเฉพาะถ้าคุณมีปัญหาเรื่องการยกของหนัก เช่น ปวดหลัง หรือปวดแขน
7. อย่าไปยึดติดกับยี่ห้อ
คนทั่วไปจะคุ้นเคยกับชื่อ Samsonite และ American Tourister เพราะเป็นเจ้าแรกๆ ที่ขายมานาน แต่ก็ยังมีหลายยี่ห้อที่คุณภาพก็ใช้ได้ เช่น Travelpro Eminent Echolac Delsey หรือแม้แต่ Blue light, Valentino, Miracle, Dandy ลองเลือกการใช้งานต่างๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ ดีกว่าที่จะเน้นหนักไปที่ยี่ห้อนะคะ
9. ซื้อกระเป๋าเดินทางกับร้านที่มีความรู้ด้านกระเป๋าจริงๆ
เพราะกระเป๋าเดินทางเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่มีหน้าที่แค่บรรจุสัมภาระเท่านั้น อย่าไปกลัวที่จะถามคนขาย เกี่ยวกับความทนทาน หน้าที่การทำงานต่างๆ การบริการหลังการขาย
อ่านจบแล้ว เพื่อนๆ ชาว Travel.mthai คงได้เอาเทคนิคไปใช้ ก่อนซื้อกระเป๋าเดินทาง ทุกครั้ง ควรดูองค์ประกอบต่างๆ ให้ดี ก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะจะได้เป็นเพื่อนคู่ใจคุณไปนานๆ ไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินในการซื้อบ่อยๆ นะคะ